[SPECIAL OS] I’m in love with a monster
ตอน… เพื่อนพ่อ
ร่างสูงใหญ่กอดอกพิงประตูมองเด็กน้อยที่นั่งหน้าบูดอยู่บนเตียงกว้าง หลงดีใจไปว่าปราบพยศได้สำเร็จ แต่ที่ไหนได้
แบคฮยอนดื้อกว่าเดิมเสียอีก โวยวายจะไปหาเพื่อน โวยวายอยากกลับบ้าน
เอาแต่งอแงจะออกจากเกาะฉลามตลอดเวลา ถ้าไม่สงสารเพราะเห็นยังเจ็บตัวอยู่
สาบานว่าชานยอลจะไม่ปล่อยให้รอดแน่ๆ
"จะเอายังไง?"
"จะกลับบ้าน!"
"เฮ้อ..." ชานยอลถอนใจซ้ำอีกครั้ง
ไม่ว่าพูดอย่างไรแบคฮยอนก็ยืนยันจะกลับบ้านท่าเดียว
"คุณจะมาทำแบบนี้ไม่ได้
ผมจะไม่อยู่ที่นี่ ผมจะกลับบ้าน"
"ทำไมถึงไม่อยากอยู่ที่นี่?
ถ้ามันไม่สะดวก ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ
ผมก็ให้คุณออกแบบทุกอย่างที่เกาะนางเงือกเองอยู่แล้ว มันไม่ดีตรงไหน"
"ตรงที่ผมไม่อยากอยู่กับคุณไง!
ผมอายุ18นะ ผมอยากอยู่กับพ่อแม่ อยู่กับเพื่อน
ผมยังต้องเรียนหนังสือ ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย
คุณจะมามัดมือชกให้ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้!"
แบคฮยอนกำลังรู้สึกว่าตนถูกรังแก
มันไม่แฟร์เลยจริงๆที่ชานยอลจะมาบังคับกันแบบนี้
ถึงพ่อกับแม่ของเขาจะยินยอมแต่เขาไม่ได้ยินยอมสักนิด
ยอมรับว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรกับการใช้ชีวิตเป็นนายหญิงแห่งหมู่เกาะตะวันออก
แต่มานึกๆดูแล้ว นี่คือสิ่งที่คนอายุ18ควรทำงั้นหรือ เขายังอยากสนุก ยังอยากเที่ยว
อยากเล่น แบคฮยอนคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมสำหรับครอบครัวฉลาม
"เรียนแถวๆนี้ก็ได้"
เสนอให้ทุกทางเลือก ได้แต่หวังว่าจะมีสักทางที่คนตัวเล็กคิดว่ามันน่าสนใจ
"ผมไม่รู้
อยากกลับบ้านก่อน"
วกเข้าเรื่องกลับบ้านจนได้
ชานยอลคิดว่าเขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว บางทีให้กลับบ้านไปก่อนน่าจะเป็นเรื่องดีและง่ายมากกว่า
มันใจว่าทั้งพ่อและแม่ของแบคฮยอนก็คงจะยืนยันอยู่ข้างเขา
ถึงตอนนั้นค่อยสำเร็จโทษให้สมใจก็ยังไม่สาย...
"ได้
ตกลง พักให้หายดี อีกสองวันผมจะพาคุณกลับบ้าน"
.
.
.
ทันทีที่รถจอดสนิทแบคฮยอนก็ถลาออกมาอย่างรีบร้อน ไม่ได้กลับบ้านเป็นสัปดาห์เห็นจะได้
คิดถึงพ่อกับแม่มากเสียจนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้โกรธแค่ไหนที่ท่านทั้งสองตกลงยกตนเองให้ปาร์คชานยอลง่ายๆ วินาทีที่รถของบ้านบยอนไปรับพวกเขาที่ท่าเรือ
แบคฮยอนก็กำชัยชนะเอาไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว รถของเขา
บ้านของเขา ถิ่นของเขา ถึงเวลาเอาคืนนายหัวกันแล้วล่ะ
"แม่!"
เด็กน้อยวิ่งปรี่เข้าไปในบ้านโดยไม่รอคนที่เดินตามอยู่ด้านหลัง ต่อไปนี้คือปฏิบัติการแก้แค้นจากบยอนแบคฮยอน
จะเมินเสียให้เข็ด ฮึ! น่ากลัวสุดๆไปเลยใช่มั้ยล่ะ
"ไง ตัวดื้อ
แล้ววิ่งเข้ามาไม่รอนายหัวเลย เสียมารยาทจริงๆ"
ซูเอตีก้นลูกชายเบาๆแต่เด็กน้อยของเธอก็ดันร้องลั่นจนคนทั้งบ้านหน้าแดงกันไปหมด
นึกถึงเหตุผลที่ทำให้แบคฮยอนเจ็บขนาดนี้
โธ่ ลูกแม่ โดนเขาทำจนช้ำไปหมดแล้วสินะ จะว่าโกรธอยู่ก็คงใช่
แต่นึกถึงอนาคตของครอบครัวและตัวแบคฮยอนเอง เธอจะยอมมองข้ามไปบ้างก็ได้
หลังจากนี้ค่อยมาคุยกันถึงเรื่องเบาไม้เบามือของนายหัวอีกที
"สวัสดีครับ คุณนายบยอน"
ชานยอลโค้งให้หญิงสาวอย่างเคารพ
ก่อนจะโค้งอีกครั้งเมื่อชายผู้เป็นเจ้าของบ้านเดินตามภรรยาออกมา "สวัสดีครับ
คุณบยอน"
"โอ๊ย ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรหรอกครับนายหัว
มาๆ เข้าบ้าน" บยอนโฮยอนเดินเข้าไปโอบไหล่ให้นายหัวชานยอลตามเข้ามา
จริงๆพวกเขาเจอกันอยู่หลายครั้งตามงานประมูลและงานพบปะในวงการธุรกิจ
เรียกว่าคุยกันถูกคอก็ไม่ผิดนักเพราะโฮยอนเจอชานยอลตั้งแต่อีกฝ่ายเพิ่งจับงายด้านธุรกิจใหม่ๆหลังเรียนจบ
ในขณะที่ตนกำลังไปได้ดีด้านบริษัทเงินทุน
ในตอนนั้นปาร์คชานยอลวัย23และบยอนโฮยอนวัย29ถือเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ถูกจับตามองทั้งคู่
แบคฮยอนขมวดคิ้วทันทีที่เห็นว่าผู้เป็นพ่อให้ความสนิทสนมกับศัตรู(?)หมายเลขหนึ่งของตน เบะปากน่าหยิกเสียจนผู้เป็นแม่จับสังเกตได้
พออธิบายให้ฟังว่าสองคนนั้นจับงานธุรกิจมาไล่เลี่ยกันจึงค่อนข้างสนิทในระดับหนึ่งแบคฮยอนก็ถึงบางอ้อทันที...
เพื่อนพ่อ!
ชานยอลเหลือบเห็นรูปครอบครัวที่วางอยู่ตามทางเดิน
มีทั้งแบคฮยอนที่โตแล้วไปจนถึงแบคฮยอนตัวน้อย
หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเสียจนไม่น่าเชื่อว่าจะแสบและดื้อได้ขนาดนี้
โฮยอนที่เห็นว่านายหัวดูจะสนอกสนใจกับรูปของลูกชายก็รีบแนะนำอย่างภูมิอกภูมิใจ
แบคฮยอนหน้าตาน่ารักเหมือนแม่เสียจนใครๆก็คิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง
ผู้เป็นพ่อชี้ให้ดูตั้งแต่รูปวัยแบเบาะ รูปที่กำลังเริ่มโต ตั้งแต่หนึ่งขวบ สามขวบ
และที่สะดุดตาก็คงเป็นรูปวัยห้าขวบของแบคฮยอน
เด็กน้อยหน้าตาน่ารักในชุดสูทตัวเล็ก
ผมหน้าม้าปรกลงมาจนแทบจะเข้าตา รอยยิ้มกว้างที่แสนสดใส
แบคฮยอนยืนอยู่ข้างผู้เป็นพ่อในงานเลี้ยงงานหนึ่ง
บยอนโฮยอนที่ยังหนุ่มยังแน่น ชานยอลจำได้ เขาอยู่ในงานนั้นด้วย ได้พูดคุยกับโฮยอนอยู่นานในฐานะที่อีกฝ่ายประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว
แต่ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะเป็น...แบคฮยอน
ชานยอลหันกลับไปมองแบคฮยอนที่เดินกอดเอวคุณซูเอพลางทำหน้าเหมือนลูกหมาขี้สงสัยใส่กัน
เจาเห็นภาพเมื่อ13ปีที่แล้วซ้อนทับขึ้นมา
เด็กน้อยตัวเล็กๆที่อยู่ในสุดสูทสั่งตัดอย่างดีวิ่งไปมาในงานโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเด็กคนรั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร
มือป้อมน่ารักดึงชายเสื้อของเขาพลางกระตุกมันสองสามครั้ง
ชานยอลก้มลงมองเจ้าตัวเล็กที่ยิ้มจนตาปิดพร้อมกับพูดว่า
'คุณอาตัวสู้งงงงง สูง'
'หรอ? แล้วเราอยากสูงเหมือนอารึเปล่าล่ะ'
'อยากคับ!'
'งั้นก็กินนมเยอะๆนะครับ
แล้วจะตัวสูงเหมือนอา'
'กินนม... น้องไม่ชอบกินนมเลย' เด็กน้อยยู่ปากน่าเอ็นดูจนชานยอลต้องย่อตัวลงไปหาใกล้ๆ
'เราชื่ออะไรหรอ? คุณพ่อคุณแม่อยู่ที่ไหน?'
'ชื่อ...'
'คุณชานยอล!'
ตอนนั้นมีใครสักคนเข้ามาเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่จะได้คุยกับเด็กน้อยจนรู้เรื่อง
สุดท้ายเรื่องราวเหล่านี้ก็ถูกทิ้งร้างมานานถึง13ปี
ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันอีกครั้งในแบบที่ไม่น่าประทับใจสักเท่าไร
จริงๆแล้วคงมีแค่แบคฮยอนฝ่ายเดียวที่ไม่ประทับใจ
ส่วนชานยอลนั้นประทับใจใบหน้าน่ารักน่าหยิกนี่ตั้งแต่เห็นครั้งแรกบนเรือแล้ว
ไม่อย่างนั้นก็คงไม่วางแผนอุ้มขึ้นเรือไปฟัดกลางทะเลให้โดนเกลียดหรอก
ทั้งหมดทานอาหารเย็นร่วมกัน
โฮยอนและชานยอลคุยเรื่องงานกันเล็กๆน้อยๆโดยมีแบคฮยอนบ่นงุ้งงิ้งแทรกขึ้นมาเรื่อยๆเพื่อฟ้องพ่อกับแม่ว่านายหัวฉลามน่ะใจร้ายแค่ไหน
พสกเขาตัดสินใจว่าเรื่องเรียนกับอนาคตของแบคฮยอนนั้นจะเอาไว้คุยกันอีกครั้งเพราะต้องใช้เวลาคิดนานเกินกว่าจะเอามาพูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร
แบคฮยอนนอนคว่ำบนเตียงนุ่มที่แสนคิดถึง
เข้าโปรแกรมแชทเพื่อจัดการสำเร็จโทษเพื่อซี้แบบเรียงตัวที่บังอาจหนีกลับมาก่อน
ไล่ด่าทีละคนจนพวกนั้นต้องขอร้องให้หยุดเพราะอ่านไม่ทันแล้วจริงๆ ต่อด้วยการปรึกษาเรื่องสำคัญสุดๆอย่างสิธีแก้แค้นคนใจร้ายอย่างนายหัวฉลามจอมโรคจิต
kimkaya: ฆ่าเขาสิ
แอบเข้าไปในห้องแล้วเอามีดแทงเลย
sexybaek: โหดไป
นี่ไม่ใช่หนังฆาตกรรมนะ
dooppaoppa: มึงก็ปล้ำเขาคืนเลยสิ
sexybaek: นี่มึงเห็นกูโง่หรอครับ!
sexybaek: ตัวใหญ่แบบนั้นก็จะปล้ำได้ไง
gianthun: แหมะ
มึงไม่โง่เลย จริงๆ
"ผมยอมให้ปล้ำง่ายๆก็ได้นะ" เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูจนเจ้าของห้องถึงกับผวา
หันมาเจอร่างสูงใหญ่นอนอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้
"คุณเข้ามาได้ยังไง!"
"คุณไม่ได้ล็อคประตู
ผมเลยเอานมเข้ามาให้"
ชานยอลคว้าเอาตัวนุ่มนิ่มมาสู่อ้อมกอดก่อนที่อีกฝ่ายจะหนีไปพ้นเสียก่อน
แบคฮยอนดีดดิ้นสุดกำลังแต่ก็ไม่อาจสู้กับแรงมหาศาลของนายหัวได้เลยแม้แต่น้อย
"นี่ปล่อยนะคุณ ผมไม่กินนม ไม่ชอบ
เอาออกไปเลย เอาตัวคุณออกไปด้วย!"
แบคฮยอนอยากจะเป็นบ้ากับความอุกอาจแสนร้ายกาจของคนตัวโต
อยู่ในบ้านของเขาแท้ๆแต่กลับกล้าเข้ามาทำเรื่องน่าเกลียดขนาดนี้ พ่อแม่เขาก็อยู่ห้องถัดไปนี่เอง
ทำไมถึงได้นิสัยเสียแบบนี้นะ
"ไม่ชอบกินนมเลยไม่สูงรู้มั้ย"
เสียงทุ้มกระซิบจนชิดใบหู จูบลงไปเบาๆให้คนโดนรังแกได้ขนลุกไปทั้งตัว
"ถึงไม่สูงก็ยืนด้วยขาตัวเองเว้ย!
ปล่อยเลย นี่! ปล่อยยยยย"
"กินนมก่อน แล้วจะปล่อย"
"ไม่ชอบ!"
"งั้นไม่ปล่อย" ชานยอลเหวี่ยงเอาร่างบอบบางราบลงไปกับที่นอน
ขึ้นคร่อมทับพลางกดข้อมมือเล็กๆเอาไว้แน่น
จ้องตาประสานไม่ลดละเพื่อบอกว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นหรือจะยอมปล่อยเด็กดื้อไปง่ายๆ
"ก็คนมันไม่ชอบนี่
ทำไมคุณใจร้ายแบบนี้วะ"
"ผมว่า...การป้อนจะทำให้ดื่มง่ายขึ้นนะ"
ใบหน้าหล่อคมฉายแววเจ้าเล่ห์
คว้าเอาแก้วนมขึ้นมาดื่มเสียเองก่อนจะก้มลงไปประกบเข้ากับริมฝีปากสีหวานที่ล่อใจอยู่เสมอ
"อื้ออออ"
ความมันข้นลงเข้าสู่โพรงปากตามด้วยลิ้นร้อนที่ทำเอาแทบสำลักนมสดออกมา
ชานยอลละริมฝีปากออกไปในขณะที่สายตายังมองดูใบหน้าขึ้นสีและริมฝีปากเผยอหอบพร้อมน้ำนมที่ไหลย้อนออกมาตามมุมปากชวนให้เข้าจู่โจมซ้ำแล้วซ้ำเล่า
เสียงริมฝีปากที่จาบจ้วงดังไปทั่วห้อง
มือหนาลูบไล้ผ่านเสื้อยืดบางเบา สัมผัสผิวกายสั่นระริกอย่างเอาแค่ใจไม่สนมือเล็กๆที่ดันแผงอกของตนด้วยแรงน้อยนิด
เสียงอื้ออึงบ่งบอกว่าเด็กน้อยกำลังจะขาดอากาศหายใจ
นายหัวฉลามแสนใจร้ายยอมผละออกก่อนจะเปลี่ยนมาจบฟัดที่ซอกคอขาว
"ไม่ อ๊ะ เดี๋ยว อื้ออออ
พ่อกับแม่ อ่าาาาา" แบคฮยอนอยากจะร้องไห้ที่ต้องมาพลาดท่าให้ชานยอลอีกครั้ง
แล้วแบบนี้เมื่อไรกันที่ตนจะได้แก้แค้น
จะให้ปล้ำคืนอย่างที่คยองซูว่าก็ดูจะยากเกินไป
แค่ถูกจูบซับไปทั่วก็หมดเรี่ยวหมดแรงเสียแล้ว
ชานยอลไล้ต่ำลงมาถึงหน้าท้องนุ่มนิ่ม
ถลกชายเสื้อให้ขึ้นไปถึงแผ่นอก
ดูดดุนเลียลิ้มชิมรสจากแอ่งสะดือจรดยอดอกเม็ดเล็กสีเชอร์รี่ มองคนตัวเล็กที่ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงครางแผ่วเพราะความเสียวซ่านก็ยิ่งอยากรังแก
อยากแกล้งให้ร้องดังๆจนลั่นไปทั้งบ้าน
แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องให้เกียรติครอบครัวบยอนด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจะห้ามใจเอาไว้แล้วอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
"อยากปล้ำคืนดูมั้ยครับ" กระซิบถามแผ่วเบาแต่จริงจัง
ถ้าให้ทำเองรับรองได้ว่าไม่มีทางเบามืออย่างแน่นอน
ปล่อยให้แบคฮยอนทำเองดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
"ฮึก! คุณตายแน่
ผมจะทำให้คุณร้องลั่นไปเลย"
ขู่เสียน่ากลัวทั้งๆที่สะอื้นฮึกเพราะแรงอารมณ์ไม่ได้หยุด
เหมือนลูกแมวลูกหมาไม่มีผิด สองมือผลักอกกว้างให้ออกไปพ้นตัว
พยุงตัวอย่างยากลำบากเมื่อตั้งหลักได้ก็คว้าเอาคนตัวใหญ่มาประกบจูบเงอะงะ
ริมฝีปากบางๆจุ๊บซ้ำๆเหมือนเด็กน้อยที่คิดจะออดอ้อนมากกว่าจะปลุกปล้ำดั่งที่ประกาศเอาไว้
ลิ้นฉ่ำเลียไปมาเหมือนลูกแมวกำลังกินนม ประคองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่อยู่นิ่งให้ปล้ำจูบมาใกล้กว่าเดิม
ลูบไล้ไปตามโครงกรามสากด้วยตอหนวด
"อืม..."
เสียงทุ้มในลำคอทำให้เด็กน้อยได้ใจ คิดเอาว่าอีกฝ่ายคงจะเสร็จตนเองเสียแล้วเป็นแน่
ฟันซี่เล็กขบริมฝีปากของนายหัวฉลามเบาๆ
ไล้เลียงับซ้ำๆลงมาที่คางสากจนถึงลำคอสีแทนที่แสนเซ็กซี่ด้วยแอปเปิ้ลอดัมปูดนูนสองลูกติดกัน
มือสวยยุกยิกปลดเปลื้องกระดุมเสื้อให้น่าพอใจ
ชานยอลเดาว่าแบคฮยอนคงไม่รู้ตัวสักนิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันห่างไกลจากคำว่าปล้ำแค่ไหน
แต่เขาจะยอมให้อีกฝ่ายเล่นสนุกให้พอเพื่อเป็นรางวัลสำหรับความพยายาม
"คุณเสียวรึยัง?" แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นถามหลังจากที่ตนจูบต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงขอบกางเกงของนายหัว
เริ่มคิดแล้วว่ามันออกจะเลยเถิดไปหน่อย
บางทีประมาณนี้ก็คงพอแล้วสำหรับการแก้แค้นครั้งแรก
ทำให้เสียวได้ก็คงชนะแล้วล่ะมั้ง
"ฮึ... ขึ้นมาอยู่ข้างบนสิ
คนเก่งกว่าต้องอยู่ข้างบนนะครับ"
ชานยอลว่าพลางรวมตัวแบคฮยอนให้ขึ้นมาซ้อนทับหน้าตักของตน เด็กน้อยหน้าแดงยิ่งกว่าเก่าเมื่อรู้สึกถึงความแข็งขืนที่ดันอยู่ตรงก้นผ่านเนื้อผ้าของกางเกง
ระยะห่างเพียงเล็กน้อยทำให้ทั้งคู่ได้สบตากันชัดกว่าที่เคย
แบคฮยอนมั่นใจว่าก่อนหน้านี้ดวงตาของนายหัวฉลามจอมดุไม่เคยฉายแววสิ่งใดนอกเหนือจากความเจ้าเล่ห์แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป
มันกำลังสื่อบางอย่างให้รับรู้ ลึกซึ้งและมีความหมายจนใจสั่นไปหมด
คิดว่าจะโกรธจะเกลียดก็ต้องถูกกลืนกินไปตามอารมณ์อย่างไม่อาจควบคุม
มือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของคนตัวเล็ก
รั้งมันลงมาเบาๆจนแทบไม่รู้สึกตัว
นิ้วยาวเลื่อนไปแตะที่ช่องทางด้านหลังแต่ไม่ทันได้รุกล้ำก็ถูกผลักออกพร้อมด้วยร่างกายเย้ายวนถอยออกมานั่งพิงหัวเตียงใบหน้าดื้อรั้นอย่างเคย
"อย่ามาแตะ วันนี้ผมจะปล้ำคุณ
เพราะงั้นอยู่เฉยๆไปเลย เดี๋ยวทำเอง"
เรียวขาถีบกางเกงผ้าแสนเกะกะให้พ้นทาง
ร่างกายเปลือยท่อนล่างเอนไปกับหมอนนุ่ม
แยกเรียวขาออกกว้างไม่นึกอายส่งนิ้วเรียวสวยของตนไปแตะลงเบาๆที่ช่องทางด้านหลัง นี่คือการแก้แค้น
เมื่อปาร์คชานยอลหวังจะได้สัมผัสมัน บยอนแบคฮยอนก็จะไม่มีวันยอม
"เด็กจริงๆ..."
นายหัวกระตุกยิ้มชอบใจกับความคิดเด็กๆของแบคฮยอน
คิดหรือว่าหนีไปทำเองแบบนั้นจะแก้แค้นเขาได้
มือหนาล้วงเอาท่อนเอ็นแข็งร้อนออกมาโชว์ให้เด็กน้อยได้เห็น
พลางรูดรั้งเบาๆยามสายตาเฝ้ามองนิ้วเรียวลูบวนไปตามช่องทางรักน่าชำเรา
"อื้อออออ"
กดนิ้วเข้าไปช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ
มองดูนายหัวและฉลามยักษ์ของจ้าตัวด้วยความเขินอาย
บัดนี้ไฟในห้องสว่างจ้าผิดกับครั้งแรกบนเรือกลางทะเลนั่น
ความใหญ่โตที่ขรุขระปูดนูนเพราะเส้นเลืิดและเม็ดมุกชวนให้ขนลุกไปหมด
ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าปีศาจแสนน่ากลัวนั่นเคยรุกล้ำชำเราร่างกายนี้มาแล้วจริงๆ
ต่างคนต่างจัดการกับส่วนของตนเอง
เสียงครางแผ่วสอดประสานบ่งบอกอารมณ์ของทั้งคู่ได้อย่างดี
แบคฮยอนกำลังรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าหากชานยอลเอาแต่ช่วยตัวเองแบบนั้นมันจะเหมือนว่าถูกเขาปล้ำตรงไหนกัน
คิดได้แบบนั้นก็ดึงเอานิ้วเรียวออกจากช่องทางจนกายกระตุกก่อนจะพาตัวเองมาคร่อมหน้าตักแกร่งอีกครั้ง
นายหัวที่เข้าใจในสถานการณ์ก็ค่อยๆประคองเอาท่อนร้อนให้ตรงช่องทางรักที่ขมิบถี่
"ผมอยู่ข้างบน ผมชนะ"
เอ่ยพลางยึดไหลกว้างแน่น ค่อยๆกดตัวลงไปช้าๆ
นิ้วที่ใช้ขยายช่อทางมาก่อนหน้านี้เที่ยบไม่ได้กับขนาดที่ใหญ่โตเลยแม้แต่น้อย
รู้สึกถึงความขรุขระที่ครูดไปตามผนังสร้างความเจ็บปวดและเสียวซ่านได้ในคราวเดียว
"อืม อย่าเพิ่งรัดแบบนั้น เด็กดี"
มือหนานวดคลึงก้อนเนื้อกลมแน่นสองข้างให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย
"อ๊ะ อย่า... อย่ามาสั่ง อ๊าาาาา
คุณโดนปล้ำอยู่นะ... นะ อ๊า ลึก!" กดตัวลงไปจนสุด
มันทั้งเจ็บทั้งเสียวทั้งอึดอัด
แบคฮยอนพยายามกลั้นเสียงให้เบาที่สุดแล้วแต่มันก็เผลอร้องออกไปอยู่เรื่อย
ซบหน้าลงกับไหล่กว้างก่อนจะโยกตัวช้าๆเรียกเสียงครางทุ้มจากอีกฝ่ายได้เช่นกัน
สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะอ่อนโยนชานยอลก็จะอ่อนโยน
ไม่อยากจะทำจนแบคฮยอนลุกไม่ขึ้นทั้งๆที่อยู่ในบ้านของเจ้าตัวแบบนี้
ประคองเอาสะโพกผ่ายให้โยกเป็นจังหวะ
ไม่รุนแรงมากนักแต่ก็ไม่ได้เนิบช้าจนเสียอารมณ์ เสียงหวานหูครางติดขัดเพราะพยายามกลั้นเสียงเอาไว้เต็มที่
ทั้งสงสารและเอ็นดูจนต้องจูบแรงๆที่แก้มยุ้ยให้คลายความรู้สึกหมั่นเขี้ยวก่อนจะเผลอทำตามอารมณ์กระแทกกระทั้นสวนขึ้นไปให้เด็กน้อยต้องบอบช้ำ
แบคฮยอนสัมผัสได้ว่านายหัวนั้นอ่อนโยนกว่าครั้งก่อนมาก
แต่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเมื่อส่วนที่ชำแรกแทรกอยู่ในกายนี้ช่างร้ายกาจเหลือเกิน
เขาไม่รู้ว่ามุกที่ฝังลงไปตามท่อนร้อนนั้นมีไว้เพื่ออะไร
แต่มันทำให้ปั่นป่วนจนบรรยายไม่ถูก
"อ๊าาาาา จะ... จะเสร็จแล้ว อ๊ะ
อ๊ะ อ๊ะ" ยิ่งใกล้ถึงฝั่งฝันสะโพกอิ่มก็ยิ่งขยับเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ
ชานยอลละมือออกจากก้นกลมมาช่วยประคองแกนกายสีอ่อนที่ถูไถกับหน้าท้องให้เสร็จสมเป็นรางวัลที่เด็กน้อยทำตัวน่ารักเหลือเกิน
"อืม โยกแบบนั้น อ่าาา
พร้อมกันนะครับ อึก!"
ความเจ็บร้าวที่ไหล่จู่โจมพร้อมกับแกนกายของเด็กน้อยปล่อยน้ำสีขุ่นพุ่งออกมาเต็มหน้าท้องแน่นไปด้วยมัดกล้าม
แบคฮยอนคงกัดไหล่ของนายหัวเอาไว้ยามเสร็จสมเพราะเกรงว่าจะเผลอกรีดร้องจนพ่อแม่ต้องเข้ามาดู
ในขณะเดียวกันท่อนเอ็นใหญ่คับช่องทางรักก็กระตุกปล่อยน้ำพันธุ์มหาศาลเข้าใส่จนคนโดนชำเราเสียบวูบไปทั่วท้องน้อย
มือหนายกกายบอบบางให้หลุดออกมากมุกเจ็ดเม็ด ช่องทางอ้าเผยอเป็นรูกว้างไม่อาจรั้งเอาน้ำขุ่นเอาไว้ได้
ร่างกายถูกจับให้นอนคว่ำทั้งๆที่สิ้นเรี่ยวแรง
ใบหน้าจิ้มลิ้มซบกับหมอนอย่างอ่อนล้าแต่สะโพกกลับโก่งขึ้นอวดสายตาจนชานยอลอดใจไม่ได้ที่จะหยิบเอาเจ้าสมาร์ทโฟนในกางเกงที่คาอยู่ตรงต้นขาของตนตั้งแต่แรกออกมาเพื่อกดเข้าโปรแกรมสำหรับถ่ายวิดีโอ โฟกัสไปที่ช่องทางอ้ากว้างพลางเลียริมฝีปากหื่นกระหายราวกับพวกโรคจิต
เด็น้อยของเขาไม่รู้ตัวสักนิดว่ากำลังถูกรังแกซ้ำเติมแบบนี้ ภาพอยู่บันทึกอย่างไม่รีบร้อน
รู้กว้างเยิ้มไปด้วยน้ำขุ่นนั้นขมิบถี่ซ้ำพยายามจะหดตัวเข้าหากันน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด
เมื่อวันนี้ไม่อาจทำรุนแรงได้อย่างใจ
นายหัวฉลามก็ขอหากำไรให้ตนเองสักหน่อย
หวังว่าแบคฮยอนจะไม่ลุกขึ้นมาอาละวาดหากรู้ว่าถูกถ่ายช่วงเวลาสำคัญเอาไว้แบบนี้
คราวหน้าอยากจะลองถ่ายเอาไว้ตั้งแต่เริ่ม
อย่างน้อยหากแบคฮยอนไม่ยอมไปอยู่ด้วยกันเขาก็ยังมีคลิปพวกนี้ให้หายคิดถึง
มือหนากดปิดโปรแกรมถ่ายวิดีโอแล้ววางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะข้างเตียง ประคองสะโพกต่ำลงเพื่อให้แบคฮยอนนอนสบายขึ้น
เอนตัวลงแนบชิดจูบซับเบาๆที่ไหล่ขาวเนียน
โอบร่างทั้งร่างให้เข้าสู่อ้อมกอดแล้วเข้าสู่นิทราไปพร้อมกัน
THE END
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น