วันพุธที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[OS Special Halloween] I'm in love with a monster





[OS Special Halloween]   I’m in love with a monster



“กูไม่ชอบทะเล” 



เสียงเอาแต่ใจดังขึ้นทำลายบรรยากาศจนผู้ร่วมทางพากันหยุดเดิน  ทุกสายตาหันกลับมามองคนตัวเล็กที่เดินรั้งท้ายด้วยใบหน้างองุ้ม ดวงตาสวยที่ถูกแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางจ้องกลับไปไม่แคร์ใครทั้งสิ้น 



“ตลกหรอแบคฮยอน   มึงนั่นแหละที่ร่ำร้องอยากมาทะเล  แล้วนี่เป็นห่าไรครับ”  เพื่อนที่เดินนำอยู่เอ่ยถามอย่างข้องใจ



“กูไม่ชอบทะเลที่นี่  กูอยากเที่ยวทะเล  แต่ไม่ใช่ที่นี่  มันไม่มีอะไรสักอย่าง  หาดก็สกปรก ทะเลก็เล่นไม่ได้  เรือโทรมๆอะไรก็ไม่รู้จอดอยู่เต็มไปหมด  มองไปก็มีแต่ป่า  ป่า” สายตามองเลยไปยังคนที่เดินนำอยู่หน้าสุด  ร่างกายสูงใหญ่กำยำ ผิวสีเข้มจากการตากแดดตากลมโชว์หราเพราะร่างกายท่อนบนเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์    “ป่าเถื่อนด้วย  นี่ก็จะมืดอยู่แล้ว  ไหนโรงแรม ไหนบ้านพัก ฮึ!  คืนนี้ต้องมุงใบจากนอนกันแล้วล่ะมั้ง”



“ไม่ต้องห่วงครับ  ที่นี่ไม่มีต้นจาก  คุณจะได้ใช้ใบมะพร้าวแทน”  เสียงทุ้มจากชายเจ้าถิ่นนั้นเรียบนิ่งไม่สามารถบอกได้เลยว่าคนพูดรู้สึกอย่างไรในเวลานี้  “อีกอย่าง  ผมคงต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ชายหาดของเราสวยไม่พอ  แต่คุณคงไม่มีทางเลือกมากหลังจากเรือของคุณนั้นน้ำมันหมดไปก่อนที่จะถึงเกาะปลายทาง”



ชายคนนี้พูดไม่ผิดสักนิด  และนั้นก็ทำให้แบคฮยอนยิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปอีก  ตั้งแต่ที่เรือของพวกเขาดันเกิดน้ำมันหมดอยู่กลางทะเล  ซ้ำโทรศัพท์ก็อับสัญญาณจนไม่อาจติดต่อกับโรงแรมที่จองเอาไว้  จะว่าโชคดีก็ใช่ที่ชายคนนี้ขับเรือหาปลาผ่านมาเจอเข้า  แต่ก็โชคร้ายอยู่ดีที่อีกฝ่ายปฏิเสธที่จะพาพวกเขาไปส่งโดยให้เหตุผลว่าใกล้ค่ำและพายุกำลังมา  โกหกทั้งนั้น  เขาไม่เหาพายุที่ไหนเลยสักนิด  สุดท้ายก็มาพักที่เกาะโง่ๆ ดูร้างๆโทรมๆเหมือนจะมีผีสิง  บางทีพวกเขาอาจจะถูกหลอกมาฆ่าแบบในหนังปิดเกาะเชือดอะไรแบบนี้  จะไปไว้ใจได้ยังไง



“อย่าเรื่องมากเพื่อนรัก  กูขอร้อง” 



“สาบานว่าได้กลับบ้านเมื่อไร  กูจะเลิกคบมึงจงอิน”  แบคฮยอนแยกเขี้ยวใส่เพื่อนที่เอาแต่พูดขัดเขาอยู่เรื่อย  เซฮุนกับคยองซูก็เดินฟังเขาบ่นได้ไม่เห็นจะขัดอะไร  แต่งจงอินนั้นไม่เคยตามใจเขาอย่างคนอื่นสักนิด  จริงๆแล้วจะขัดกันก็ไม่ว่า  หากแต่มันต้องไม่ใช่ต่อหน้าคนที่เขาไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกเห็น  ไอ้ชาวเกาะท่าทางป่าเถื่อนนั่น!  สายตาที่หมอนั่นใช้มองมาช่างไร้มารยาทและดูล่วงเกินอย่างถึงที่สุด  ไม่ชอบใจจริงๆ







ทั้งหมดเดินกันมาจนถึงบ้านไม้หลังใหญ่ที่โอบล้อมไปด้วยต้นไม้มากมาย  กลุ่มแขกจำเป็นตื่นตาตื่นใจไม่น้อย  ใครจะคิดว่าเกาะที่ดูร้างผู้คนจะมีบเนหลังใหญ่และสวยงามขนาดนี้  มีชายวัยกลางคนเดินออกมาจากในบ้านก่อนจะรีบโค้งให้อย่างสุภาพ 



“แขกของนายหัวหรอครับ”  ประโยคที่ชายคนนี้เอ่ยถามทำเอาหลายคนต้องขมวดคิ้ว  นายหัวงั้นหรือ  เขาหมายถึงใครล่ะ  ตรงนี้มีแค่แขกสี่คนและชายเปลือยท่อนบนอีกหนึ่งคน 



อย่าบอกนะว่า….



“คุณเป็นเจ้าของเกาะหรอเนี่ย”  เป็นจงอินที่ถามอย่างตื่นเต้น 



“ก็แค่เกาะร้างๆกับบ้านหลังเดียว  มึงจะตื่นเต้นอะไร”  ขอให้ได้ขัด  บางทีฉายาของแบคฮยอนคงเป็นสก็อตไบรท์แน่ๆ  ลองได้ไม่ถูกชะตาใครแล้วก็ไม่มีทางได้สงบสุข  ตามกัดจิกไม่ปล่อยง่ายๆจนกว่าจะมีใครยอมแพ้ราบคาบกันไปข้าง



นายหัวหน้าดุนั้นไม่ได้โต้ตอบใดๆ  กระตุกยิ้มเล็กๆแล้วเดินนำเข้าไปในบ้านทันที  ไม่จำเป็นต้องรีบร้อนเมื่อตั้งใจเอาไว้แล้วว่าคืนนี้จะสั่งสอนคนอวดดีทั้งคืน  ยอมรับว่าใบหน้าจิ้มลิ้มกับท่าทางพยศแบบนั้นดึงดูดความสนใจตั้งแต่แรกเห็น  มันช่างน่ารังแกให้หอบสะอื้นจนขาดใจ 



“ผมขอไปทำธุระสักครู่  เชิญพวกคุณทานอาหารกันได้เลย  ซายังจะจัดการดูแลให้  รวมถึงที่นอนด้วย”





“เชิญทางนี้ครับ” 



ชายที่ชื่อซายังเดินนำแขกเข้ามาภายใน  ก่อนจะพาไปยังโต๊ะอาหารโดยให้วางสัมภาระเอาไว้ที่ห้องโถง  โชคดีที่พวกเขาไม่ได้มีข้าวของมากมาย  ตั้งใจจะมาเที่ยวกันแบบเด็กๆจึงพกแค่เป้สะพายหลังคนละใบเท่านั้น  เรียกได้ว่าเป็นการเที่ยวต่างจังหวัดครั้งแรกของพวกเขา  เพราะเป็นการฉลองจบไฮสคูล พ่อแม่ของจงอินจึงใจดีทุ่มทุนออกค่าที่พักสุดหรูซ้ำยังให้เรืออีกหนึ่งลำไว้ใช้ส่วนตัว  แต่เด็กก็คือเด็ก  พวกเขารู้แค่ใช้เท่านั้น  สุดท้ายก็มาน้ำมันหมดโง่ๆทั้งที่ยังไม่ถึงที่พัก  ใครจะไปรู้ว่าตระกูลคิมรวยขนาดนั้นจะให้ยืมเรือแต่ไม่เติมน้ำมันเต็มถังไว้ให้  ทริปในฝันเป็นอันต้องพังทลายเพราะดันมาตายตอนจบแบบนี้



“บ้านใหญ่ดีนะครับ”  คยองซูมองไปรอบๆก็เอ่ยชื่นชมขึ้นมา 



“นายหัวออกแบบเองน่ะครับ  ตอนนั้นยังวัยรุ่นไฟแรง  จบมาใหม่ๆก็ร้อนวิชา  ผ่านมาก็สิบกว่าปีแล้วบ้านก็ยังสวยเหมือนเดิม”  ซายังเล่าไปก็จัดสำรับไป  ไม่ค่อยมีคนมาที่เกาะนี้บ่อยนัก  นานๆเขาจะมีเพื่อนคุยสักที



“เขาจบออกแบบแต่มาอยู่เกาะแบบนี้หรอครับ”  เซฮุนเอ่ยถามในสิ่งที่เพื่อนอีกสามคนก็คงสงสัยเช่นกัน  อีกอย่างนอกจากบ้านหลังนี้ ทั้งเกาะก็ไม่มีอะไรสักอย่าง  ไม่รู้ว่านายหัวคนนั้นทำมาหากินอะไร



“ตระกูลปาร์คก็มีธุรกิจท่องเที่ยวครับ  เกาะผีเสื้อที่พวกคุณกำลังไปก็ของนายหัวนะครับ  รีสอร์ทนั่นฝีมือออกแบบของนายหัวด้วย   นอกจากนี้ก็มีเกาะไข่มุกที่เพาะเลี้ยงหอยมุกรายใหญ่ของแถบตะวันออก  ไม่ธรรมดาใช่มั้ยล่ะครับ”



แขกทั้งสี่ได้แต่กระพริบตาปริบๆกับเรื่องที่กำลังฟัง  ในใจก็คำนวณถึงความร่ำรวยจากธุรกิจเหล่านั้น  ไม่น่าเชื่อว่าชายหนุ่มที่พวกเขาคิดว่าเป็นแค่คนหาปลาธรรมดานั้น กลับกลายเป็นมหาเศรษฐี  แน่นอนว่าพอได้ยินชื่อตระกูลปาร์คก็คงไม่มีใครไม่รู้จัก  เกาะผีเสื้อที่ตั้งใจจะไปพักนั้นก็รู้ว่าเป็นของตระกูลปาร์ค  อาจโชคไม่ดีนักที่ไปไม่ถึงเกาะผีเสื้อแต่ก็ได้เจอกับเจ้าของเกาะตัวเป็นๆ ซ้ำยังนั่งกินข้าวอยู่ในบ้านเขาเสียนี่



“งั้นที่นี่เป็นเกาะส่วนตัวหรอครับ” 



“ครับ  นี่คือเกาะฉลาม  มาจากฉายาของนายหัวน่ะครับ”



ในฐานะที่ครอบครัวของพวกเขาก็อยู่ในวงการธุรกิจใหญ่  ถึงจะเป็นแค่เด็กมัธยมแต่ก็พอมีความรู้   สำหรับชื่อเสียงของปาร์คชานยอล  ประมุขแห่งตระกูลปาร์คคนปัจจุบัน  ฉายาที่ใครๆก็รู้กันดีนั่นคือ ฉลามแห่งหมู่เกาะตะวันออก  ตอนนี้พวกเขาได้มาเห็นกับตาใกล้ๆ แม้จะแสดงออกอย่างสุภาพแต่ก็มีภาพลักษณ์ที่ดุดันและแข็งแกร่ง  ก็ถือว่าสมฉายาเขาล่ะ



“คุยกันเพลินเลยนะครับ”  นายหัวชานยอลเดินเข้ามาขัดจังหวะการพูดคุยของผู้ดูแลอย่างคิมซายังและแขกทั้งสี่  บัดนี้ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อเชิ๊ตกางเกงผ้ายืดสบายตัว  นั่งลงตรงหัวโต๊ะซึ่งเป็นที่ประจำในขณะที่สายตาก็มองไปยังเด็กน้อยจิ้มลิ้มที่เสหน้าหันหนีไปทางอื่น 



พยศไม่เลิก



“นายหัวแต่งแบบนี้แล้วหล่อเชียวครับ  ดูดีกว่าตอนถอดเสื้อเดินตากแดดเป็นไหนๆ  แบบนี้จะได้หานายหญิงให้ตระกูลปาร์คได้สักที”  ซายังเอ่ยอย่างติดตลก  แต่ก็หวังเอาไว้จริงๆว่านายหัวของเขาจะหาคนมาอยู่เคียงข้างกันเสียที  อายุก็ปาไปสามสิบหกสามสิบเจ็ดแล้วแต่ยังไม่มีคนรักเป็นตัวเป็นตน 



“อะไรกัน  ยังไม่แต่งงานอีก  ได้ข่าวว่าแก่แล้วนี่ครับ”  แบคฮยอนเอ่ยพลางกระตุกยิ้ม  แขวะนิดแขวะหน่อยนี่สะใจเขานักล่ะ



“แก่แต่แรงไม่ตกหรอกนะครับ”  ชานยอลพูดกับคนตัวเล็กจอมดื้อพร้อมส่งสายตาเจ้าเล่ห์เสียจนอีกฝ่ายเบ้ปากใส่ 





ทั้งหมดทานอาหารค่ำจนเต็มอิ่มแล้วจึงได้แยกย้ายกันไปพักผ่อน  แม้บ้านจะใหญ่โตแต่ก็มีห้องรับรองแค่สองห้องเท่านั้น  เซฮุนและคยองซูนอนห้องหนึ่ง  ส่วนจงอินและแบคฮยอนก็นอนด้วยกันอีกห้องหนึ่ง  ถึงจะรักความเป็นส่วนตัวและนอนคนเดียวจนเป็นนิสัย  แต่เอาจริงๆมันก็ไม่เลวนัก  ทั้งแบคฮยอนและจงอินเองก็คุยกันถึงเรื่องที่ผ่านมาในห้องเรียน  ส่วนใหญ่ก็เป็นเรื่องตลกที่ไม่ว่าจะนึกถึงสักกี่ครั้งก็ยังเรียกเสียงหัวเราะได้อยู่เสมอ  แม้จะอยากคุยกันไปเรื่อยแต่ความเหนื่อยล้าจากการเดินทางก็ทำเอาร่างกายฝืนไม่ไหว  จงอินนั้นชิงหลับไปก่อนจนอีกคนไม่มีทางเลือก สุดท้ายก็พากันเข้าสู่ห้วงนิทราไปทั้งคู่ 



.

.

.



แสบตา



นี่คือสิ่งที่แบคฮยอนรู้สึกพร้อมๆกับอาการโคลงไปมาคล้ายว่าเตียงนอนมันกำลังกลายร่างเป็นเรือลอยล้อคลื่นอยู่กลางทะเล  พยายามขยับตัวให้นอนได้สบายขึ้นแต่ก็ไม่ได้ผลสักนิด  ทำไมที่นอนมันถึงได้แข็งราวกับไม้กระดานทั้งๆที่ก่อนนอนเขาก็เห็นว่ามันนุ่มดีอยู่แท้ๆ  จนแล้วจนรอดก็ทนไม่ไหวต้องลุกขึ้นมานั่งขยี้ตาเพราะแสงที่สาดเข้าใส่  ค่อยๆลืมตาช้าๆก็ยิ่งพาให้ข้องใจ  เจ้าแสงสีเขียวพวกนี้คืออะไรกัน  ทำไมมันถึงได้เข้ามาอยู่ในห้อง



เดี๋ยวนะ!



ที่นี่ไม่ใช่ห้องนอน  มองไปรอบๆด้วยความตระหนก  รอบตัวมืดมิดไปหมดมีเพียงแสงไฟสีเขียวที่สาดส่องช่วยในการมองเห็น 



“เป็นไปไม่ได้”  พึมพำกับตัวเองหลังจากพบว่าบัดนี้บยอนแบคฮยอนกำลังอยู่บนเรือหาปลา  เรือลำเดียวกับที่นายหัวชานยอลขับไปเจอพวกเขา  และที่แย่กว่าเรือหาปลาคือตอนนี้เขากำลังลอยลำอยู่กลางทะเล



กลางทะเล!



“ไงครับ  แบคฮยอน”  เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆพร้อมกับร่างสูงใหญ่ของฉลามแห่งหมู่เกาะตะวันออก  ใบหน้าหล่อเหลาดุดันฉายแววเจ้าเล่ห์จนเด็กน้อยขนลุกไปทั้งตัว  ชานยอลยิ่งก้าวเข้าไปแบคฮยอนก็ยิ่งถอยหนี 



“อย่าเข้ามานะ  คุณทำบ้าอะไร  คุณเป็นคนพาผมมาที่นี่ใช่มั้ย”



“แหมโทษผมคนเดียวก็ไม่ถูก  ถ้าคุณไม่หลับลึกจนเกินไปก็คงรู้สึกตัวตั้งแต่ผมเข้าไปอุ้มมาจากเตียงแล้ว”



แบคฮยอนอยากจะกระโดดลงทะเลให้จบๆไปเสีย  ถูกเขาอุ้มจากเตียงพามาถึงกลางทะเลได้โดยไม่รู้สึกตัวสักนิด  พ่อแม่คงอับอายแน่ๆถ้ารู้ว่าลูกชายคนเดียวมันไม่ได้เรื่องขนาดนี้ 



“แล้วคุณพาผมมาทำไม”



“ผมสนใจคุณยังไงล่ะ เด็กน้อย”  เสียงทุ้มกระซิบแผ่วข้างหูจนคนถูกรุกรานผวาตัวไปตั้งหลักห่างกันอีกครั้ง



“คุณมันโรคจิต!  พาผมกลับเข้าฝั่งเดียวนี้  ไม่งั้นผมจะกระโดดลงไปแน่”



“โดดสิครับ  เผื่อคุณจะไม่รู้ว่าแถบนี้ฉลามชุมขนาดไหน”  ชานยอลไม่ได้พูดเล่น  ดูเหมือนหลายคนจะยังไม่รู้ว่าเพราะอะไรฉายาของเขาถึงเป็นฉลาม  ทะเลฝั่งตะวันออกนั้นมีฉลามชุกชุมมากที่สุด  และเพราะเขาคุมเขตฝั่งนี้ทั้งหมดถึงถูกเรียกว่าเป็นฉลามไปด้วย  ที่นี่คือเขตฉลาม  แน่นอนว่าถ้าคนตัวเล็กกระโดลงไปล่ะก็คงไม่เหลืออะไรกลับไปหาพ่อหาแม่



“คุณมันไม่ใช่แค่ฉลามอย่างที่ใครๆบอกหรอก  คุณน่ะมันปีศาจ  เป็นปีศาจฉลาม  ชั่วร้ายที่สุด”   แบคฮยอนค่อยๆขยับตัวเข้ามาด้านใน  ถึงจะรั้นสักแค่ไหนก็ต้องมีขอบเขต  ใครจะอยากเป็นอาหารฉลามกันเล่า  “ต้องการอะไรก็พูดมาเลย  จะได้จบๆแล้วก็กลับเข้าฝั่งสักที”



“ผมบอกไปแล้ว ผมต้องการคุณ”  แขนแกร่งที่แน่นไปด้วยมัดกล้ามรั้งคนตัวเล็กให้เข้ามาแนบชิดจนไร้ชองว่าง  โน้มใบหน้าลงไปจรดปลายจมูกเข้ากับผิวแก้มน่าหยิก  เอ่ยกระซิบเสียงพร่าให้คนฟังขนอ่อนลุกชันไปทั้งร่าง  “ผมจะพากลับเข้าฝั่งอย่างปลอดภัย  แต่คุณต้องเป็นเด็กดีของผมทั้งคืน”





ริมฝีปากหนาจู่โจมเข้าครอบครองลิ้มรสความหวามฉ่ำจากเด็กน้อยตรงหน้า  บดจูบขยี้หวังจะให้ริมฝีปากบางๆที่แสนร้ายกาจนั้นบวมช้ำจนสะใจ  สองมือจับบังคับบีบเค้นไปทั่วผิวนุ่มนิ่ม  นี่มันรุนแรงเกินไปสำหรับคนตัวเล็ก  แบคฮยอนเป็นแค่เด็กหนุ่มที่เพิ่งจบมัธยมปลาย  ด้วยวัยเพียง18ปีนี้บอกได้เลยว่าเจ้าตัวไม่ประสาสักนิดกับเรื่องเหล่านี้  ในขณะที่ปาร์คชานยอลนั้นช่ำชองเจนจัด อายุ36ปีสำหรับผู้ชายนั้นไม่ได้เรียกว่าแก่อย่างที่แบคฮยอนสบประมาทเลยสักนิด  แน่นอนว่าเด็กน้อยจะได้พิสูจน์ด้วยตัวเองจนถึงใจเลยทีเดียว



สองแขนกระคองร่างบอบบางให้นอนแผ่ราบไปกับพื้นแข็งๆที่แสนสกปรก  คร่อมทับเอาไว้ใม่ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ดิ้นหนี  ตรึงข้อมือเล็กทั้งสองข้างไว้ด้วยกันด้วยมือเพียงข้างเดียวและจัดการปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตนด้วยมีออีกข้างอย่างรวดเร็ว ใครเล่าจะปลดกระดุมได้เร็วเท่านายหัวฉลามคนนี้  ยิ่งเห็นสีหน้าตระหนกของคนตัวเล็กก็ยิ่งรู้สึกว่าเสื้อผ้าที่ใส่อยู่ในตอนนี้ช่างเกะกะซะเหลือเกิน  อยากจะกระชากให้ขาดออกไปทั้งคู่แล้วบรรเลงเพลงรักไม่รอเวลา



เมื่อถอดเสื้อตัวเองออกไปก็จัดการบังคับดึงเสื้อยืดของเด็กน้อยให้พ้นตัว  ผิวกายขาวผ่องที่สู้แสงสีเขียวช่างยั่วยวนใจ  คิดเอาไว้ตั้งแต่แรกพบว่าร่างกายนี้คงจะละมุนน่าสัมผัสไปทั้งตัว  เมื่อได้มีโอกาสจริงๆก็ต้องยอมรับว่ามันปลุกเร้าความเป็นนักล่าได้มากมายเหลือเกิน   



“อื้อ”  สองมือน้อยๆพยายามดันแผงอกแน่นให้ห่างออกไป  สะบัดหน้าหลีกหนีริมฝีปากที่เอาแต่ปล้ำจูบกันไม่ยอมพัก  แบคฮยอนไม่เข้าใจว่าทำไมตนต้องมาเจอเรื่องแบบนี้  คิดเอาไว้ตั้งแต่แรกว่าชายคนนี้ไว้ใจไม่ได้ซึ่งเขาก็คิดถูก  ปาร์คชานยอลทั้งชั่วร้าย  เจ้าเล่ห์  เป็นปีศาจ  นี่มันคือฝันร้ายของเขาจริงๆ



มือหนาไม่หยุดแค่เสื้อเท่านั้น  จัดการดึงรั้งกางเกงนอนขาสั้นตัวบางให้พ้นทางออกไป  อยากจะเห็นเรือนกายของเหยื่อให้เต็มตา  อยากจะลิ้มรสจนไม่เหลือแม้แต่เศษซาก  จะทารุณให้บอบช้ำ  จะกลั่นแกล้งให้เด็กน้อยกรีดร้องลั่นทะเลกว้าง  แค่คิดว่าจะได้ทำอะไรกับร่างกายตรงหน้าชานยอลก็ใจเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ  เขาห่างหายเรื่องอย่างว่าไปหลายเดือนเพราะทำบางอย่างกับอาวุธร้ายของตน  ไม่คิดว่าแผลหายดีแล้วจะได้ใช้ครั้งแรงกับเด็กน้อยคนนี้  จะได้พิสูจน์กันล่ะว่าที่เค้ายอมเสี่ยงไปนั้นมันจะคุ้มหรือเปล่า



เม้มจูบไปทั่วตั้งแต่ใบหน้าน่ารักผ่านซอกคอขาวเนียน  ขบกัดเบาๆพร้อมไล้เลียต่ำลงเรื่อยๆ  เสื้อครางอื้ออึงที่บ่งบอกว่าคนตัวเล็กกำลังกลั้นใจอยู่นั้นกระตุ้นให้ชานยอลยิ่งอยากรังแก  จูบซับผ่านหน้าท้องนุ่มมือลงมาปรนเปรอซอกขาขาว  เรียวขาหุบเข้าอัตโนมัติเพราะความหวาดหวั่นและไม่คุ้นเคย  ร่างสูงใหญ่ยกตัวขึ้นเล็กน้อยแล้วดึงกางเกงของตนลงไปถึงหน้าขา  จับร่างสั่นระริกของแบคฮยอนให้คว่ำลงต่ำจนใบหน้าจิ้มลิ้มอยู่เสมอกับท่อนเอ็นแข็งที่ดีดออกมาชี้หน้าดูลามก 



“อะ อะไร นี่….  แบคฮยอนเอ่ยถามเสียงสั่นกับสิ่งที่เห็น  แน่นอนว่าถ้ามันเหมือนๆกับกับของตนก็คงไม่ต้องถามโง่ๆแบบนี้  แต่ของชานยอลมันต่างออกไป  ไม่ใช่แค่ขนาดที่ใหญ่กว่าและยาวกว่าเท่านั้น  แต่มัน



“มุกยังไงล่ะเด็กน้อย  มุกแท้เนื้อดีที่สุดเจ็ดเม็ดของน่านน้ำตะวันออกเลยล่ะ”   มือหนาลูบข้างแก้มใสที่กำลังส่ายหนีอย่างหวาดกลัว  “ทำมันสิ  แล้วคุณจะรู้ว่าตัวเองโชคดีแค่ไหนที่ได้ลองมันเป็นคนแรก”



ไม่มีทางเลือกสำหรับคนที่ตกเป็นเบี้ยล่างอย่างสมบูรณ์ ถ้าไม่ทำก็คงถูกปล่อยทิ้งกลางทะเลแน่  แบคฮยอนรู้ว่าชานยอลทำได้จริงๆ  ไม่มีการปราณีกันสำหรับปีศาจร้ายที่ทำเรื่องเลวๆกับเขา  มือเรียวสวยค่อยๆแตะลงบนส่วนที่แข็งชี้  มันน่ากลัวเสียจนต้องหันหน้าหนี  เอ็นปูดทั่วทั้งลำซ้ำยังมีมุกฝังปูดอีกเจ็ดเม็ด  คนตัวเล็กเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าการกระโดดลงไปให้ฉลามกินกับอยู่บนนี้ให้ฉลามรังแก  แบบไหนจะตายทรมานมากกว่ากัน 



ถ้าโดนมุกเจ็ดเม็ดของชานยอลเข้าไป  แบคฮยอนอาจจะตายจริงๆก็ได้



“รูดสิครับ”  ชานยอลจับมือที่กำลังสั่นของแบคฮยอนให้กำรอบแกนกายอย่างกระชับ แลัวบังคับให้ขยับอย่างที่ต้องการ  “ใช้ปากของคุณด้วย  โชว์ให้ผมดูหน่อยว่าคุณปากดีได้แค่ไหน”



คนตัวเล็กส่ายหน้ารัว  ทั้งรังเกียจและหวาดกลัว  อีกอย่างเรื่องพวกนี้อยู่ๆจะมาสั่งให้ทำกันง่ายๆได้อย่างไร  แบคฮยอนไม่เคยทำอะไรบัดสีไปมากกว่าการช่วยตัวเองตามประสาเด็กชายวัยเจริญพันธุ์  เขาไม่เคยมีแฟนไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชาย  เขาทำมันไม่ได้จริงๆ 



ชานยอลกระตุกยิ้มกับท่าทางน่าสงสารของคนตรงหน้า  ความปราณีไม่มีอยู่ตั้งแต่แรกที่ตัดสินใจจะจับเด็กน้อยคนนี้มาชำเราอย่างดิบเถื่อน  น่าสงสารแต่ชานยอลไม่สงสารเลยสักนิด  มือหนาบับคับให้ใบหน้าสวยประชิดเข้ากับแกนกายแล้วบีบปากเล็กๆนั่นให้อมมันเข้าไปทั้งลำ  ยึดศีรษะให้อยู่นิ่งด้วยสองมือแล้วแอ่นเอ็นร้อนกระแทกเข้าโพรงปากจนแบคฮยอนถึงกับสำลัก  ร่างกายเปลือยเปล่าสั่นระริก  ริมฝีปากก็ถูกอัดกระแทกเข้าใส่จนเกือบจะรับไม่ไหว  ขนาดลำกายใหญ่จบคับแน่น อีกทั้งยาวลึกลงไปในลำคอ  ไม่ไหวแล้วจริงๆ



“แค่ก แค่ก”  แบคฮยอนไอโขลกออกมาอีกฝ่ายจึงยอมถอนแกนกายออกให้คนตัวเล็กได้พักหายใจ



“โอ๋ๆ  ไม่เป็นไรนะครับ  ผมลืมไปเลยว่าปากคุณน่ะเล็กนิดเดียว”   



นายหัวเอ่ยอย่างใจดี  แต่แบคฮยอนก็รู้ว่าคนๆนี้ใจร้ายแค่ไหน  ร่างบอบบางถูกจับหันหลังแล้วกดให้อยู่ในท่าคลานเข่า  ลิ้นร้อนไล้เลียตั้งแต่กลางหลังลงไปยันก้นแน่นเนื้อน่ากระแทก  ขบเบาๆพอให้คนถูกกระทำได้สะดุ้ง  บีบเค้นก้อนเนื้อกลมแน่นอย่างมันส์มือ  ฟาดลงไปไม่แรงนักก็ยิ่งตื่นเต้นที่เห็นว่ามันเด้งสู้ขนาดไหน  ไม่อยากนึกถึงตอนที่อัดเข้าใส่  ดูท่าจะสุดยอดยิ่งกว่าใครที่ชานยอลเคยร่วมรักมา



แหวกก้นกลมให้แยกออกจากกันเผยช่องทางปิดสนิท แตะลิ้นแฉะลงไปเรียกเสียงครางแผ่วและสะโพกที่บิดหนี แบคฮยอนคงไม่รู้ว่ายิ่งพยายามส่ายหนีเท่าไรก็ยิ่งเหมือนกำลังยั่วยวน 

"อื้ออออ" เผลอร้องออกมาเมื่อรู้สึกถึงก้านนิ้วยาวที่กำลังแทรกเข้าสู่ช่องทางคับแคบด้านหลัง  แบคฮยอนไม่รู้จะเอาหน้าไปซุกไว้ตรงไหนดี แค่ท่าทางคลานเข่าแอ่นสะโพกที่ทำอยู่ตอนนี้ก็แสนจะน่าอายพอแล้ว ยังต้อวมาถูกชำแรกเข้าใส่จนครางสั่นอีก

ผนังอุ่นภายในเต้นตุบๆตอดรัดนิ้วยาวที่แทรกเข้าไป  ชานยอลเลียริมฝีปากอย่างกระหายที่จะได้ทารุณช่องทางของคนที่แอ่นสะโพกอยู่ตรงหน้า ผิวขาวผ่องที่ตัดกับกายสีแทนของตนนั้นดูงดงามน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด น่าเสียดายที่ไฟสีเขียวของเรือลำนี้สว่างไม่มากพอที่จะให้เขาได้ชื่นชมความงามนี้อย่างชัดเจน  ไว้คราวหน้าจะพาไปชำเรากลางแจ้งท้าแดดท้าลมทะเลจนสมใจ



ดึงนิ้วออกอย่างรวดเร็วจนช่องทางนั้นปรับสภาพไม่ทัน ขยิบถี่ตามผู้รุกรานอย่างลืมตัว ใบหน้าก้มลงไปหาก้นอวบหวังจะกัดกินอย่างมูมมาม เกร็งลิ้นแล้วแหย่ลงไปจนสะโพกผายส่ายร่อนเพราะความเสียวสะท้าน แบคฮยอนถูกมอมเมาโดยสมบูรณ์ มือเรียวพยายามจะยกมาจับแกนกายของตนเองที่บัดนี้ต้องการปลดปล่อยเต็มที แต่คนใจร้ายกลับตีมือน้อยเสียเต็มแรงไม่ยอมให้ทำได้ดั่งใจ



"อย่าจับสิคนดี ผมจะทำให้คุณเสร็จได้โดยไม่ต้องแตะต้องมันเลยแม้แต่นิดเดียว"



ยืดตัวขึ้นชักรูดแกนกายของตนเองสองสามครั้ง  ฟาดลงไปกับผิวอิ่มกลมกลึงสร้างอารมณ์ดิบเถื่อนให้ถึงใจยิ่งกว่า  จ่อส่วนปลายเข้ากับช่องทางที่ยังขมิบถี่เพราะความซ่านเสียวที่เกิดจากเรียวนิ้วและลิ้นร้อน  บีบเค้นสะโพกแน่นเนื้อให้ผ่อนคลาย  แล้วสอดเข้าไปเชื่องช้า  โน้มตัวลงไปกระซิบแผ่วซาบซ่านข้างหู



“ร้องดังๆนะครับ  ให้ผมภูมิใจกับมุกที่เลี้ยงเองกับมือหน่อย”  



“อ๊า!  แบคฮยอนไม่ได้อยากจะทำตามที่อีกฝ่ายบอก  หากแต่ไม่สามารถกลั้นเสียงเอาไว้ได้  มันเจ็บปวดจนเกินจะบรรยาย  ความใหญ่โตที่แทบจะฉีกร่างกายนี้ให้แหลกละเอียด  เจ็บจนน้ำตาไหลออกมาเป็นสาย  ดวงตาพร่าเลือนราวกับสติเริ่มจะหายไป  มันทรมานเหลือเกิน



“ผมทำคุณเลือดออกซะแล้ว  แบคฮยอน”  ชานยอลมองช่องทางคับแคบที่ตนฝังกายลงไปอย่างทารุณ  บัดนี้ฉีกขาดของเหลวสีแดงไหลซึมมาตามท่อนลำร้อนยามที่ชักกายออกและอัดกระแทกลงไปซ้ำๆ 



เสียงกรีดร้องดังก้องไปกับอากาศเหนือผิวน้ำ  แบคฮยอนได้แต่กลั้นใจลืมความเจ็บเหล่านี้ไปเสียเพราะชานยอลไม่คิดจะเบาแรงลงสักนิดแม้จะบอกว่าเลือดไหลออกมาแล้วก็ตาม  ไม่ยอมหยุด  ไม่ปราณี  โหดร้ายยิ่งกว่าปีศาจตนไหนๆ  คนตัวเล็กจำยอมให้อีกฝ่ายกระแทกกระทั้นเข้าจนพอใจ  หวังว่ามันจะจบโดยเร็วที่สุด 



ยิ่งนานยิ่งตอบรับและคุ้นชิน อารมณ์ที่ดับมอดไปก่อนหน้านี้เพราะความเจ็บปวดเริ่มตื่นขึ้นอีกครั้ง  ความใหญ่โตคับแน่นและผิวขรุขระทั่วลำกายร้อนแรงสร้างความรู้สึกแปลกใหม่ให้เด็กน้อยผู้ไม่ประสีประสา  แบคฮยอนกำลังคิดว่าตัวเองกลายเป็นพวกใจแตกไปเสียแล้ว  กรีดร้องเจ็บปวดเจียนตายแต่สุดท้ายก็ส่ายสะโพกรับแรงกระแทกจากอีกฝ่ายอย่างไร้ยางอาย  ได้แต่โทษว่าเป็นเพราะตนอยู่ในวัยเจริญพันธุ์  อารมณ์ทางเพศคือเรื่องแสนธรรมดา  ในเมื่อต้องการปลดปล่อยแต่ไม่สามารถทำมันได้ด้วยตัวเอง  เขาก็ต้องขอพึ่งคนอื่น



“อ๊ะ จะถึง อื้อ ผมจะ  เสียงหวานเอ่ยไม่เป็นภาษาเพราะความซ่านเสียวที่ควบคุมไม่ได้และร่างกายที่สั่นคลอนไปตามแรงกระทั้นจากคนตัวใหญ่



“อื้มมมม”  ชานยอลยึดเอวนิ่มมือเอาไว้แล้วอัดกระแทกเข้าใส่แรงขึ้น  ขบกรามแน่นด้วยอารมณ์ที่พุ่งสูง  “อีกนิดแบคฮยอน  อีกนิด”



ยิ่งแรงยิ่งถึงใจ  คนตัวเล็กแนบใบหน้าสวยลงกับพื้นไม้โดยไม่ห่วงสักนิดว่ามันจะสกปรกแค่ไหน  โก้งโค้งแอ่นสะโพกให้ชานยอลชำเราเอาแต่ใจ  มุกเจ็ดเม็ดนั้นครูดไปกับผนังด้านในจนเสียวไปหมด  รู้สึกว่าตัวเองกำลังสั่นไปทั้งกายเตรียมจะปลดปล่อยทั้งๆที่ไม่มีใครได้แตะต้องส่วนอ่อนไหลนี้เลยสักนิด  เหมือนว่านายหัวฉลามจะไม่ได้ดีแต่ปาก  เพราะแบคฮยอนกำลังจะเสร็จเพียงแค่ถูกกระแทกเข้าใส่เท่านั้นจริงๆ



“อ๊า!!!!!   เด็กน้อยหอบสะท้านพร้อมกระตุกเป็นระยะหลังจากปลดปล่อยน้ำขาวขุ่นออกมาเปื้อนเต็มพื้น  ช่องทางขมิบถี่ขึ้นกว่าเก่าจนลำกายร้อนระอุต้องเร่งจังหวะเข้าใส่ให้เร็วตามไปด้วย  



ถึงแบคฮยอนจะปลดปล่อยไปแล้วแต่ชานยอลก็ยังไม่คิดจะหยุด  จับคนตัวเล็กให้ตะแคงข้างยกเอาเรียวขาขาวพาดเข้ากับบ่าแกร่ง  อัดกระแทกเข้าใส่ล้ำลึกจนอีกฝ่ายร้องเสียงหลง   ปฏิเสธไม่ได้ว่าความสดใหม่ของร่างกายนี้ทำเอานายหัวติดใจเหลือเกิน  คับแน่นจนแทบจะเสร็จอยู่หลายครั้ง  เสียงที่ครางกระเส่าก็กระตุ้นอารมณ์ได้ดียิ่งกว่าใครๆ  ก้มมองแกนกายของตนที่ผลุบเข้าออกในช่องทางที่บวมแดงเพราะช้ำจากการถูกชำเราแล้วเลียปากอย่างกระหายชอบใจ  ยิ่งเห็นยิ่งมีอารมณ์ 



“อ๊ะ  อ๊ะ  อ๊า  พอมันลึก อ๊า!!!   แบคฮยอนปรือตามองร่างกายกำยำที่ยังคงรังแกกันไม่หยุด  ผิวสีแทนกับมัดกล้ามแน่นทั้งตัวนั้นดูเข้ากันดีกับความดิบเถื่อนของเจ้าตัว  ไหนจะท่อนกายใหญ่ที่ฝังมุกทั่วลำนั่นอีก  ผู้ชายอายุ36ในความคิดของแบคฮยอนไม่น่าจะดูแข็งแรงหนุ่มแน่นได้เท่านี้   แก่แต่แรงไม่ตก  สมราคาคุยเขาเลยล่ะ



“อื้อ อ่า”  เสียงทุ้มครางแผ่วยามอัดกระแทกส่งแรงครั้งสุดท้ายพร้อมปล่อยน้ำพันธุ์เข้าใส่จนปริ่มล้มออกมาด้านนอก   ดึงมันออกช้าๆแล้วยกสะโพกกลมให้แอ่นสูงขึ้นจนเด็กน้อยผู้บอบช้ำต้องนอนคว่ำอีกครั้ง  ช่องทางเผยออ้ากว้างจนแทบจะมองเห็นด้านในได้ทั้งหมด  มือหนาชักรูดแกนกายจนน้ำขาวขุ่นที่ยังปล่อยไม่หมดพุ่งตามเข้าใส่รูกว้างตรงหน้าอย่างลามก  “อย่าเอาสะโพกลงล่ะ  ผมไม่อยากให้มันไหลออกมา”



“อื้อ  อะไร”  เอ่ยถามสียงสั่นเพราะไม่เข้าใจกว่าทำไมอีกฝ่ายต้องทำเช่นนี้



“ให้น้ำของผมมันอยู่ในตัวคุณนานๆหน่อย  ไว้ปิดสนิทเมื่อไรค่อยเอาสะโพกลงมา  รู้มั้ยเด็กดี” 



“คุณมัน  โรคจิต”   แบคฮยอนไม่สนแล้วว่าชานยอลจะอยากทำอะไร  ตอนนี้เด็กน้อยไม่อาจประคองสติได้อีกหลังจากรับศึกหนักจากนายหัวฉลามจอมเถื่อน  ดวงตาค่อยๆปิดลงหวังจะพักสักนิดแม้ร่างกายจะอยู่ในท่าแสนลามกแค่ไหนก็ตาม

 

.

.

.



ร่างกายเจ็บร้าวจนขยับตัวไม่ได้แม้แต่นิดเดียว  แบคฮยอนรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาแล้ว  แต่กลับไร้เรี่ยวแรงแม้แต่จะลืมตา  เจ็บไปหมด  ยิ่งช่องทางด้านหลังนั้นยิ่งปวดแสบกว่าส่วนไหนๆ   มือสวยลูบไปทั่วก็รู้สึกได้ถึงความนุ่มนิ่มของที่นอน  อ่า กลับมาแล้วสินะ



“ไหวมั้ย”  เสียงทุ้มดังขึ้นใกล้ๆ  แน่นอนว่ามันคือเสียงของปาร์คชานยอล  ไอ้โรคจิต!



ฝืนลืมตาจนสำเร็จก็พบว่ามันคือห้องที่ตนเข้ามานอนพร้อมจงอินเมื่อคืนนี้  แต่ตอนนี้เพื่อนซี้หายไปแล้ว  เหลือเพียงตนเองที่นอนแผ่หลาอยู่และร่างสูงใหญ่ที่นั่งอยู่ใกล้กับเตียงนอน   



“จงอินไปไหน”



“เพื่อนคุณข้ามเกาะไปแล้วตั้งแต่เช้า”



“ห๊ะ!  สภาพร่างกายไม่อำนวยเท่าไรแต่เสียงยังคงโหวกเหวกโวยวายได้เหมือนเดิม  บอกเลยว่านี่แหละคือความแข็งแกร่งอย่างแท้จริงของบยอนแบคฮยอน  พ่อแม่พูดเสมอว่าเขาตัวเล็กแต่เสียงดังเหมือนสุนัขพุดเดิ้ลไม่มีผิด  นั่นถือเป็นคำชมพุดเดิ้ลน่ารักจะตาย



“ผมบอกเรื่องเมื่อคืนกับพวกเขาแล้ว  โทรบอกพ่อแม่คุณด้วย”



“ห๊ะ!  ถามว่าตอนนี้แบคฮยอนยังจะพูดอะไรได้อีก



“จะพาลูกคนอื่นไปปู้ยี่ปู้ยำแล้วไม่รับผิดชอบได้ยังไงล่ะ  ผมคุยกับพ่อแม่คุณแล้ว  บริษัทเงินทุนบยอนกับธุรกิจน่านน้ำตะวันออก  ตกลงกันง่ายเลย”



ไม่อยากจะเชื่อ  ทำไมทุกอย่างมันง่ายราวกับเป็นเรื่องเล็กน้อย  พ่อแม่รู้หรือเปล่าว่าลูกตัวเองโดนอะไรไปเมื่อคืนนี้  แน่นอนว่าแบคฮยอนไม่รู้ว่าผู้ใหญ่ตกลงกันว่าอย่างไรแต่ก็คงไม่พ้นเรื่องธุรกิจ  ให้ตายสิ  นี่พ่อแม่เห็นอนาคตอันรุ่งเรืองของบริษัทสำคัญกว่าลูกคนเดียวไปแล้ว



…….  หมดคำจะพูด



“เดี๋ยวซายังจะยกอาหารกับยามาให้  กินซะ  หายแล้วจะพาไปดูเกาะนางเงือก”  นายหัวเอ่ยเสียงเรียบอย่างเคยแล้วออกจากห้องไปทันที



เกาะนางเงือกอะไรกันอีกวะ   พูดเองเออเองอยู่คนเดียวแล้วก็เดินหนีไปซะเฉยๆ  ชีวิตบยอนแบคฮยอนจะมีอะไรน่าสงสารมากกว่านี้ได้อีก  ถูกขืนใจไม่มีใครช่วย  ตื่นมาเพื่อนก็ทิ้ง  พ่อแม่ก็ไม่แยแส    นี่แค่มาเที่ยวฉลองจบไฮสคูลทำไมเรื่องมันถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้



“ขออนุญาตนะครับ  ผมเอาอาหารกับยามาให้  ลุกไหวหรือเปล่าครับ”  ซายังวางถาดลงบนโต๊ะข้างเตียงก่อนจะเอ่ยถามเมื่อเห้นเด็กหนุ่มมีท่าทางอ่อนแรงเหลือเกิน



“พอไหวครับ  ขอบคุณมากเลย”  แบคฮยอนยิ้มแห้ง  ค่อยๆพยุงตัวขึ้นช้าๆ  “ขอถามหน่อยได้มั้ยครับ  เกาะนางเงือกคืออะไรหรอ”



“เกาะนางเงือก?   อ๋อ  ห่างออกไปอีกหน่อยนึงครับ  หายหัวเพิ่งซื้อเอาไว้สองสามเดือนก่อน  บอกว่าอายุเยอะแล้วอาจจะได้แต่งงานเร็วๆนี้เลยซื้อเอาไว้เป้นของรับขวัญเจ้าสาวน่ะครับ”



“อ่อ  ครอบครัวบยอนก็ไม่ได้ฐานะขี้ริ้วขี้เหร่อะไร  เปิดบริษัทเงินทุนได้ก็ถือว่าร่ำรวยไม่น้อย  แต่ไอ้ที่ซื้อเกาะเป็นของขวัญอะไรแบบนี้มัน…. โคตรรวย  นายหัวชานยอลจอมเถื่อนนี่จะรวยเกินไปแล้ว  ยอม!  



“ผมขอตัวก่อนนะครับ  มีอะไรก็เรียกใช้ได้เลย”  ซายังโค้งอย่างสุภาพอย่างเคย



“ขอบคุณครับ”



แบคฮยอนอยู่ในสภาวะจำยอมเมื่อพ่อแม่ของตนพ่ายแพ้ให้กับความร่ำรวยของปาร์คชานยอลเป็นที่เรียบร้อย  และตอนนี้เขาก็พอจะเข้าใจถึงความอภิมหาความรวยเว่อร์ๆหลังจากรู้ว่านายหัวฉลามซื้อเกาะเตรียมไว้เป็นของขวัญให้เจ้าสาวของตนเอง   ที่จริงมันก็ไม่เลวร้ายเมื่อนึกถึงความสุขสบาย  แต่ภาพเมื่อคืนที่ตนถูกอีกฝ่ายรังแกย้อนกลับเข้ามาก็ทำเอาคิดหนักอีกครั้ง  ทำไมเด็กอายุ18อย่างเขาต้องมาใช้ชีวิตกับลุงโรคจิตป่าเถื่อนบ้ากามวัย36  ไม่ได้ใช้ชีวิตธรรมดาเสียด้วย  ต้องอยู่กันไปตลอดชีวิต  แล้วปาร์คชานยอลท่าทางจะอายุยืนอีก  นี่เขาไม่ต้องโดนมุกเจ็ดเม็ดทุกวันหรือยังไงกัน! นรกชัดๆเลย!!!



“อ้อ!  ซายังที่กำลังจะออกไปจากห้องเกิดชะงักขึ้นมาราวกับนึกบางอย่างที่สำคัญได้กะทันหัน  



“มีอะไรหรอครับ?”  แบคฮยอนเอ่ยถามหลังจากถูกดึงสติจากห้วงความคิดกลับมาสู่สถานการณ์ปัจจุบัน  มองคนที่หันกลับมายิ้มให้อย่างเป็นมิดด้วยความสงสัย



“ผมลืมสวัสดีอย่างเป็นทางการน่ะครับ”  ซายังส่งยิ้มเอ็นดูให้เด็กน้อยที่ทำหน้าฉงนอยู่บนเตียงกว้าง  “ยินดีต้อนรับสู่ครอบครัวฉลามครับ  นายหญิง”



THE  END














































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น