วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

I'm in love with a monster ตอน... นายหญิงฉลามแห่งเกาะนางเงือก




[OS Special CHAN’s DAY]

I’m in love with a monster

          ตอนนายหญิงฉลามแห่งเกาะนางเงือก



“มึง”  แบคฮยอนชี้หน้าจงอินที่เพิ่งจะโผล่พ้นประตูเข้ามาในร้านกาแฟที่ตนนัดเอาไว้  ก่อนจะชี้ไปที่เพื่อนอีกสองคนอย่างเซฮุนและคยองซูที่ตามกันเข้ามาติดๆ  “มึง  แล้วก็มึงด้วย  พวกมึงมาช้า  กูรอเป็นชั่วโมงแล้วนะ”



“ซอรี่ค่ะ  พวกกูไปทำธุระมา”  จงอินเอ่ยด้วยสีหน้ายียวนจนเพื่อนตัวเล็กที่นั่งทำหน้างอต้องชกเข้าที่ไหล่เบาๆเพราะความหมั่นไส้



“จะมีธุระอะไรสำคัญไปกว่าการที่กูนัดมาเพื่อจะคุยเรื่องเตรียมสอบ”  แบคฮยอนท่าทางจริงจังแต่เพื่อนอีกสามคนกลับขมวดคิ้วแสดงความสงสัยออกมา 



“สอบไรมึง?” 



“ก็ซูนึงไง  พวกมึงลืมหรอ”  คนตัวเล็กไม่เข้าใจสักนิดว่าเพื่อนๆของตนทำไมถึงได้เอื่อยเฉื่อยกันนักทั้งๆที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว  พูดเรื่องสอบก็ทำหน้างงกันหมด  สงสัยคิดว่าจบมัธยมก็สบายแล้วสินะ  ไม่เตรียมตัวอะไรเลย



“พวกกูไม่ต้องสอบ  คยองซูพยายามอธิบาย  “นี่มึงไม่รู้หรอว่าพวกกูได้โควตาเข้ามอชังมี”



อะ! ไร! นะ!



.

.

.



“คุณก็เลยโกรธแล้วพรวดพราดกลับมาบ้านโดยไม่ฟังเพื่อนพูดต่อหรอ”   ชานยอลนั่งฟังแบคฮยอนบ่นอยู่นานนับชั่วโมงตั้งแต่ที่คนตัวเล็กกลับมา  ดูเหมือนเรื่องที่ทำเจ้าตัวขุ่รข้องหมองใจจะเกี่ยวกับเพื่อนทั้งสามคนที่ได้โควต้าเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆกันหมดแล้วไม่ยอมบอกให้รู้  เขาก็พอจะได้ยินจากครอบครัวบยอนว่าเด็กน้อยของเขาเรียนไม่เก่งเอาเสียเลย  คงจะทำให้พลาดโควต้าไปในขณะที่เพื่อนๆได้กันหมด 



“แล้วจะอยู่ทำไม  แค่นี้ผมก็เหมือนโดนถีบตกทางเท้าไปนอนคว่ำหน้าบนถนนให้รถสิบล้อทับตาย  แล้วถ้าบังเอิญไม่ตายผมก็จะกัดลิ้นตัวเองซะให้ขาดใจเพราะอายเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาขอความช่วยเหลือจากคนอื่น  คุณเข้าใจมั้ยเนี่ย  ผมโดนเพื่อนทิ้งแล้ว  พวกนั้นไม่บอกอะไรเลย  ตั้งใจจะไปเรียนกันสามคนแล้วก็ปล่อยให้ผมไปแข่งไถนากับน้องทุยกลางแดดร้อนจัดในอุณหภูมิสี่สิบองศาที่ประเทศไทย  ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอ่ะ”



แบคฮยอนระบายอารมณ์ยาวจนคนโตกว่าฟังไม่ทัน  ความน้อยใจพุ่งขึ้นสิบระดับ  ไหนจะความโกรธที่ตีตื้นเข้ามาโดยที่เจ้าตัวก็ยังตอบไม่ได้ว่าโกรธเพื่อนเพราะอะไร  จะโกรธที่เพื่อนไม่บอก  โกรธที่เพื่อนได้โควตาแต่ตนไม่ได้  โกรธที่เพื่อนทำเหมือนจะทิ้งตนเอาไว้คนเดียว  หรือโกรธที่ตนเองฉลาดไม่พอที่จะตามเพื่อนไป  มหาวิทยาลัยชังมีเป็นสถาบันเกรดดีที่สุดในสาขาเฉพาะทางด้านบริหาร  และก็เข้ายากที่สุดเช่นกัน  ใช่ว่าแค่มีเงินก็จะเสนอหน้าเข้าไปนั่งเรียนได้  ที่นี่ต้องสอบเข้าไปเท่านั้นโดยแยกออกจากการสอบซูนึงของมหาวิทยาลัยอื่นๆเพื่อจะคัดเด็กได้ละเอียดยิ่งกว่า  แน่นอนว่าสติปัญญาระดับล่างอย่างบยอนแบคฮยอนไม่มีทางจะเข้าได้



นอกจากหน้าตากับฐานะแล้วแบคฮยอนก็ไม่มีดีอะไรอีก  โง่ก็โง่  ทำอะไรเองก็ไม่เป็นสักอย่าง  เอาแต่ใจก็เท่านั้น  ซ้ำยังมนุษยสัมพันธ์แย่สุดๆ  มีแค่เพื่อนสามคนที่คบกันมานาน  นอกนั้นคนตัวเล็กก็ไม่มีเพื่อนคนไหนอีกแล้ว  นิสัยติดลบจนคนอื่นยี้กันหมด  ถ้าหากเข้ามหาวิทยาลัยชังมีตามพวกจงอินไปไม่ได้  คุณหนูบยอนก็หัวเดียวกระเทียมลีบเพราะไปที่อื่นคงไม่มีใครคบ



“ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วคุณจะไปไหนล่ะ  เปลี่ยนใจอยากไปกับผมขึ้นมาแล้วหรือ”  ชานยอลแค่ลองถามออกไปเพราะแบคฮยอนดูท่าจะดื้อเกินกว่าจะยอมเขาง่ายๆ  แต่วินาทีนี้ที่คนตัวเล็กกำลังสับสนดูจะเหมาะกับการล่อลวงเป็นที่สุด   ใครจะว่าชานยอลเป็นตาแก่โรคจิตที่ลุ่มหลงความน่ารักน่าฟัดของเด็กน้อยรุ่นหลานก็ตามแต่  เขาไม่ใส่ใจทั้งนั้น  ท้าพนันได้ว่าหากใครมาเจอตัวเล็กๆผิวขาวๆหน้าตาจิ้มลิ้มและนิสัยพยศเหมือนลูกแมวที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือคงอยากจับมาตีก้นแรงๆให้สาแก่ใจกันทั้งนั้น  แต่ว่าหากใครกล้าทำแบบนั้นกับแบคฮยอนของเขารับรองได้ว่าจะจับมันโยนลงทะเลให้เป็นอาหารฉลามเสีย



“คุณเคยบอกว่าจะยกเกาะนางเงือกให้ผมใช่มั้ย?”

“ในกรณีที่คุณเป็นนายหญิงฉลาม  ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ  ชานยอลต้องบอกให้แบคฮยอนเข้าใจ



“ผมทำอะไรกับมันก็ได้ใช่มั้ย”



“ทุกอย่างยกเว้นระเบิดมันทิ้ง”



“สร้างบ้านได้รึเปล่า”



“ได้”



“ห้างสรรพสินค้าล่ะ”



“ห๊ะ”  ชานยอลขมวดคิ้วมองเด็กน้อยเอาแต่ใจที่ทำสีหน้าคาดหวังสุดชีวิตก็ตัดสินใจรับปากอย่างเสียมิได้  “ได้สิ”



“สนามบิน”



“ความคิดดี  ผมก็วางแผนจะสร้างสนามบินกลางทะเลอยู่เหมือนกัน”  เรื่องสนามบินถือว่าเข้าท่าไม่น้อยเพราะชานยอลเองก็มีโครงการเรื่องนี้อยู่  อาจไม่ใหญ่โตแต่ก็พอจะให้จอดเครื่องบินส่วนตัวได้



“แล้วผมจะย้ายอะไรไปไว้ที่เกาะก็ได้ใช่รึเปล่า”



“ได้ทั้งหมดที่คุณต้องการ  คุณอยากย้ายอะไรไปล่ะ  เตียงนอนสี่เสาหลังใหญ่ของคุณ  หรือจะให้ย้ายห้องคุณทั้งห้องไปเลย”



“ย้ายมหาวิทยาลัยชังมีไปสิ”



“คือ ถ้าผมทำไม่ได้  คุณก็จะไม่ยอมไปอยู่กับผมหรอ”



“ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ  คุณรวยขนาดนี้   เขาพูดกันว่านายหัวฉลามผู้ยิ่งใหญ่ทำได้ทุกอย่างไม่ใช่หรอ  แค่นี้ทำไม่ได้แล้วผมจะไปฝากชีวิตกับคุณได้ยังไง”



“ผมเสียใจ แบคฮยอน  ผมทำไม่ได้”  ชานยอลยอมรับแต่โดยดี  ใครที่ไหนมันจะไปย้ายมหาวิทยาลัยทั้งสถาบันมาไว้ที่เกาะได้  “แต่ผมให้คนไปอุ้มเพื่อนคุณมาไว้ที่เกาะได้นะ”



“ตกลง!



ด้วยประการฉะนี้เด็กน้อยแบคฮยอนวัย 18ปีจึงถูกคุณอาผู้เป็นเพื่อนพ่อวัย 36ปีล่อลวงมาเป็นสมาชิกครอบครัวฉลามได้สำเร็จโดยที่ไม่ต้องออกแรงหรือใช้กำลังใดๆ  ซ้ำครอบครัวบยอนก็ไว้ใจให้ปาร์คชานยอลได้ดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเต็มตัว 



แต่ถึงกระนั้นแบคฮยอนก็คือแบคฮยอน  เด็กดื้อก็คือเด็กดื้อ  พอมาถึงเกาะฉลามก็งอแงจะไปเกาะผีเสื้อให้ได้   บอกว่าคราวก่อนตั้งใจไปพักก็ไปไม่ถึง  ชานยอลอธิบายให้ฟังว่าช่วงนี้เกาะจะวุ่นวายเพราะแขกมาพักกันเต็มอัตราเนื่องด้วยเป็นช่วงปิดเทอม คงไม่เหลือห้องดีๆไว้รับรองนายหญิงแน่ๆคนตัวเล็กก็ไม่สนใจ  ยืนยันว่าอย่างไรก็จะไปเพราะไม่อยากนอนที่เกาะฉลาม  นายหัวได้แต่ถอนใจ  ถ้าหากรู้ว่าจะดื้อแบบนี้จะไม่ใจดีด้วยตั้งแต่แรก  จะแอบอุ้มหนีพ่อหนีแม่มาฟัดไม่ปราณีตั้งแต่เข้าเขตตะวันตกจนถึงเกาะฉลามให้รู้แล้วรู้รอดไป



“งั้นไปเกาะนางเงือก  ผมจะให้คนงานไปตั้งกระโจมให้สักหลัง”



“ดี!



                .

                .

                .



                แบคฮยอนมองร่างสูงใหญ่ที่กระโดดลงจากเรือจนน้ำทะเลเปียกไปครึ่งขา  ไม่เข้าใจว่าจะจอดห่างอะไรนักหนา  เจ้าตัวใส่กางเกงผ้ามาคงไม่รู้สึกอะไรแต่แบคฮยอนนี่สิ  กางเกงยีนส์ผ้าหนาชนิดที่ว่าไม่เปียกน้ำก็ยังหนัก  แล้วตัวสูงขนาดชานยอลยังเปียกไปครึ่งขา แบคฮยอนไม่จมถึงเอวเลยหรืออย่างไร  ช่วงนี้เขาเริ่มจะเกลียดความตัวเล็กของตัวเองอยู่บ่อยๆ  ทั้งอ่อนแอกว่าโดนเขารังแกเอาแต่ใจแล้วยังต้องมาเปียกน้ำแบบนี้อีก  เหตุผลของนายหัวคือกลัวเรือจะชนหินโสโครกเพราะยังไม่เคลียร์รอบเกาะให้เรียบร้อย  ถือเป็นเหตุผลที่คนอย่างเขาไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียงจริงๆ  ความรู้เรื่องพวกนี้ก็ไม่มีมาสู้  สุดท้ายก็จำใจยอมเปียกกระโดดตามลงน้ำจนได้



                “ที่นี่ดูสะอาดกว่าเกาะฉลาม”  แบคฮยอนไม่ได้พูดเพราะอยากกวนอารมณ์ของชานยอล  แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆตามที่เห็น  หาดทรายละเอียดไร้เศษซากกิ่งไม้เปลือกหอยให้ตำเท้า  มีโขดหิดเล็กใหญ่อยู่เป็นจุดๆ  คลื่นก็ซัดเข้ามาไม่แรงนัก  ต่างกับเกาะฉลามลิบลับ  จะมีเหมือนกันก็คงเป็นความร่มรื่นจากต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมไปทั่ว  พอเห็นแบบนี้แบคฮยอนก็อยากจะพับโครงการสร้างบ้านไปเสีย  หากต้องตัดต้นไม่พวกนี้ก็น่าเสียดายไม่น้อย 



                “แน่ล่ะ  ซื้อมาตั้งแพงนี่ครับ”  ชานยอลว่าพลางหันมาดึงมือก่อนจะชี้ไปที่กระโจมผ้าขนาดกลางที่ตั้งอยู่ห่างชายหาดไปนิดหน่อย  “ผมให้คนติดไฟเอาไว้แล้ว  อีกไม่นานคงมืด  คุณจะได้ไม่กลัว”



                “โอเค  ผมจะพักผ่อนแล้ว  คุณกลับไปเถอะ”



                “ไม่กลัว?”



                “กลัวอะไร  คุณน่ะน่ากลัวที่สุดแล้ว  อยู่ห่างๆคุณ ผมก็ไม่มีอะไรให้กลัวทั้งนั้นแหละ”



                “เชิญตามสบายครับ”  ชานยอลไม่เร้าหรือต่อ  ปล่อยให้คนตัวเล็กได้พักผ่อนตามที่ต้องการก่อนจะเดินกลับไปที่เรือ  แต่เขาก็ไม่ได้วางใจที่จะปล่อยให้แบคฮยอนอยู่บนเกาะคนเดียว  แม้จะกลับขึ้นเรือมาแล้วก็ใช่ว่าจะได้ไปที่ไหน  ถอดเสื้อออกไปพาดไว้บนกาบเรือเพราะเปียกจากน้ำทะเลที่กระเด็นใส่แล้วนั่งเอนตัวลงเพื่อพักผ่อนในที่ของตนเองเช่นกัน 



                ท้องฟ้าสลัวทำให้ชานยอลรู้สึกเป็นห่วงเด็กน้อยจอมอวดดีของเขาขึ้นมา  เกรงว่าพอฟ้ามืดเจ้าตัวเล็กจะเกิดกลัวขึ้นมาเสียดื้อๆ  อย่างน้อยเขาควรไปบอกให้แบคฮยอนรู้เสียหน่อยว่าเขานั้นไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล  จากกระโจมตะโกนเรียกก็คงดังไปถึงเรือ  เจ้าตัวจะได้ใจชื้นขึ้นบ้าง  ตัดสินใจลงจากเรืออีกครั้งไปตามหาเป้าหมาย  เดินไปถึงกระโจมก็เห็นแสงไฟเริ่มสว่างสวนทางกับท้องฟ้า  เห็นกางเกงยีนส์คุ้นตาพาดอยู่กับเก้าอี้ไม้หน้ากระโจม  เดาว่าแบคฮยอนคงจะถอดมาผึ่งไว้เพราะมันเปียกไปเกือบทั้งตัว  แต่ที่น่าแปลกคือคนที่ควรเจอกลับไม่อยู่เสียนี่  แบคฮยอนไปไหนกันนะ?



                มองหาจนทั่วก็พบว่าร่างเล็กๆที่แสนนุ่มมือกำลังนั่งสบายอกสบายใจบนโขดหิน  ทอดสายตาออกไปยังทะเลที่เริ่มมืดลงเรื่อยๆ  เห็นแล้วก็พอใจที่แบคฮยอนดูจะชอบที่นี่   ท่าทางผ่อนคลายแบบนั้นถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าอีกฝ่ายจะไม่งอแงขอออกไปนอนที่อื่นเหมือนตอนอยู่บนเกาะฉลามอีก



                “แบคฮยอน”



                “คุณ  ไหนกลับไปแล้วนี่”  แบคฮยอนเบิกตากว้างที่เห็นว่านายหัวยังอยู่บนเกาะแบบนี้  มือเรียวสวยรีบดึงชายเสื้อลงมาปิดหน้าขาเอาไว้  ที่กล้าจะถอดกางเกงไปตากแบบนั้นก็เพราะมั่นใจว่าอยู่คนเดียว  แต่นี่อะไร  เผลอไม่ได้เลยสักนิด  ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง คนแก่จอมเจ้าเล่ห์ก็มาประชิดตัว



                “ผมนอนอยู่บนเรือ  กลัวคุณอยู่คนเดียวไม่ได้  แล้วคุณก็กลับไปที่กระโจมได้แล้ว  นี่กำลังจะมืด  ไฟส่องมาไม่ถึงเดี๋ยวคุณมองทางไม่เห็น”



                “ไม่อ่ะ  ผมจะอยู่ตรงนี้ก่อน”  แบคฮยอนไม่ได้อยากเอาแต่ใจ  แต่คนมันสวมแค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงชั้นในเท่านั้น  จะให้พรวดพราดลุกก็คงไม่ดีแน่  อย่างน้อยก็ควรให้ชานยอลออกไปก่อน 



                “ทำไมพูดยากแบบนี้  ชอบให้ผมเป็นห่วงหรอ”  ไม่ว่าเปล่า  ร่างสูงใหญ่ตรงดิ่งเข้าไปหาคนที่นั่งขดอยู่บนโขดหินทันที  ท่าทีตระหนกของแบคฮยอนดูน่าขันและน่ามอง  นึกถึงยามได้รังแกอีกฝ่ายเลือดในกายมันก็พลุ่งพล่านไปหมด  ไม่สนเสียงร้องโวยวายจากริมฝีปากเล็กๆแต่ถือวิสาสะจับอุ้มให้ใจหายกันไป



                “นี่!  คุณ ปล่อย!  มือเรียวทั้งทุบทั้งดันอกกว้างของคนที่อุ้มตนอยู่  ยิ่งอุ้มท่าเจ้าสาวแบบนี้ชายเสื้อก็ยิ่งถลกขึ้นมาเห็นไปถึงไหนต่อไหน  ยิ่งดิ้นก็ยิ่งไปกันใหญ่  สุดท้ายก็ต้องใช้ท่าไม้ตายที่รับรองได้ว่าเก่งมาจากไหนก็ต้องพ่ายแพ้ สองแขนจัดการล็อคคอคนตัวโตเอาไว้ก่อนจะโน้มลงมาแล้วอ้าปากงับหูกางๆนั่นไปเต็มแรง      



                ได้ผลอย่างที่คิด  ชานยอลปล่อยแบคฮยอนร่วงลงพื้นทรายจนก้นจ้ำเบ้า  เสื้อที่เปียกชื้นถูดเม็ดทรายละเอียดจับจองพื้นที่บนเนื้อผ้าจนสกปรกไปหมด  ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์  รีบยันตัวคลานหนีคนที่ทำหน้าดุเพราะถูกเขากัดหูไปเต็มๆ  แต่ยังไปได้ไม่เท่าไรก็ถูกมือหน้าจับข้อเท้าเล็กแล้วลากกลับไปหาอย่างไม่ปราณี  ชีวิตนี้จะหนีนายหัวพ้นได้อย่างไร  ตกลงมาเป็นนายหญิงให้ก็ใช่ว่าจะปล่อยตัวให้ปู้ยี่ปู้ยำได้ง่ายๆ  อุตส่าห์ขอมาอยู่เกาะนางเงือกเผื่อจะได้ห่างกันบ้างก็ไม่วายจะถูกรังแกตามเคย 



                “ไม่ดื้อมันไม่ได้เลยหรือไงนะ”  ชานยอลคร่อมทับร่างเล็กที่นอนแผ่กับหาดทราย  แสงไฟจากกระโจมส่องให้เห็นใบหน้าเง้างอนไม่ชัดนักแต่นายหัวก็มั่นใจว่าเด็กดื้อคงเบะหน้าใส่เต็มที่  ปากเล็กๆที่เชิดขึ้นเพราะโดนขัดใจนี่ช่างน่าขยี้ให้บวมช้ำเสียเหลือเกิน



                “ไม่ต้องมาพูดเลย  ไหนคุณบอกจะกลับไปแล้วทำไมยังอยู่  คุณคิดจะทำเรื่องลามกกับผมใช่มั้ย!



                “ด้วยความสัตย์จริงตอนแรกแค่จะตามคุณให้เข้าไปนอนไม่ได้คิดจะทำอะไรทั้งนั้น  แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว  เด็กอะไรถอดกางเกงยั่วคนอื่น  แบบนี้ต้องตีแรงๆ”



                ริมฝีปากหนากดจูบลงบนกลีบปากเล็กๆ  ดูดดึงอย่างร้ายกาจ  บดขยี้อย่างชำนาญ  เด็กน้อยได้แต่ครางอื้ออึงในลำคอเพราะถูกปล้นจูบจนแทบไม่เหลืออากาศหายใจ  ข้อมือทั้งสองข้างถูกคนตัวโตกดเอาไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว  อีกข้างก็จัดการบีบเค้นไปตามลำตัวนุ่มนิ่มและสะโพกอวบน่าตี 



                “เฮอะไม่ อื้อ!  ถูกปล่อยให้โกยอากาศได้ไม่เท่าไรก็โดนปล้ำจูบซ้ำๆจนเจ็บไปหมด  แบคฮยอนรู้สึกได้ว่าครั้งนี้มันรุนแรงกว่าคราวก่อนมากนัก  อาจเป็นเพราะครั้งนั้นอยู่ที่บ้านของเขาเอง  นายหัวคงจะเกรงใจพ่อแม่เขาอยู่บ้าง  แต่ตอนนี้สิ  คิดว่าคงไม่พ้นจะต้องเจ็บตัวเหมือนครั้งแรกบนเรือนั่น  ไม่น่าใจร้อนยอมตกลงมาเพราะอารมณ์โกรธชั่ววูบเลย  ยิ่งดิ้นยิ่งเหนื่อย  ยิ่งต่อต้านก็ยิ่งหมดแรง  แบคฮยอนไม่ชอบที่ตัวเองตัวเล็ก  คอยดูเถิด  เดี๋ยวจะไปอัพกล้ามให้ล่ำเป็นเดอะฮัคล์  แล้วปาร์คชานยอลจะต้องเสียใจที่รังแกเขาในวันนี้ 



                เรียวขาที่โผล่พ้นเสื้อสีขาวถูกดันจนชิดแผ่นอก  แบคฮยอนอยากจะเป็นบ้ากับท่าทางน่าอายนี่เหลือนเกิน  ต้องมานอนแหกแข้งแหกขาเปิดช่องทางให้ผู้ใหญ่ใจร้ายเข้ามารังแกสะโพกอวบอิ่มที่ยังช้ำไม่หายจากคราวก่อน   ได้แต่ปรือตามองดูคนตัวโตที่กำลังก้มลงไปหาส่วนล่างของตนเองแล้วก็ยิ่งพาให้หน้าเห่อร้อน  สะดุ้งเล็กๆตอนที่รู้สึกว่าชั้นในชื้นๆสีขาวของตนถูกแหวกออกไปข้างๆด้วยฝีมือนายหัวฉลามจอมโรคจิต  ไม่รู้ว่าจะถูกทำบ้าทำบออะไรอีก  อยู่ด้วยกันไปนานๆแบคฮยอนคงได้กลายเป็นพวกโรคจิตตามแน่ๆ



                “หื้ออออออ”   ความเปียกแฉะแตะที่ช่องทางไวสัมผัสจนเผลอกระตุกกาย เรียกเสียงหัวเราะในลำคอของคนที่ก้มหน้าก้มตารังแกกันไม่อายผีป่าผีทะเล   แบคฮยอนได้แต่กำมือกับเสื้อของตนเองแน่นเพราะความรู้สึกวูบไหวที่กำลังก่อตัว  ลิ้นร้อนไล้เลียผ่านช่องทางไปมาไม่ยอมหยุด  มือหนาเปลี่ยนใจถอดชั้นในที่แหวกไปข้างๆออกมาคาเอาไว้ที่หน้าขาเพื่อให้สะดวกแก่การเฟ้นฟัดสะโพกนิ่มที่อวบอิ่มล้นมือ  บีบเค้นคลึงหนักเพราะหมั่นเขี้ยวจนอดไม่ไหว  จับแหวกออกจนช่องทางเผยอเล็กๆเรียกร้องให้ชำเราเข้าใส่จนเสียงแหบหวานครางแผ่วแต่ดังก้องไปทั่วทั้งเกาะ



                รัวลิ้นเข้าใส่จนสะโพกอวบส่ายร่อนตามอารมณ์ที่กลบความเขินอายไปจนหมด  แสงไฟสาดส่องเพียงเล็กน้อยแต่เห็นใบหน้าน่ารักได้อย่างชัดเจนว่าบัดนี้มันน่าขย้ำแค่ไหน  หยาดน้ำใสไหลปริ่มขอบตานั่นไม่อาจรู้เลยว่าร้องไห้เพราะอายหรือร้องไห้เพราะเสียว  เสียงครางฮือดังเป็นระยะน่าฟัง  ชานยอลละลิ้นออกจากช่องทางแคบแล้วจับเรียวขาขาวที่ไม่อาจอ้าออกจากกันได้เพราะชั้นในที่ยังรั้งต้นขานั้นขึ้นพาดบ่าซ้ายเอาไว้  นิ้วหนาลูบวนร่องรักที่เปียกชื้นจากน้ำลายแล้วค่อยๆดันเข้าไปช้าๆ



                “อ๊า…. ไม่  ไม่  อื้อออ  ทราย  มัน อ๊ะ อื้อ”  ใบหน้าจิ้มลิ้มสะบัดรัวเพราะความรู้สึกบางอย่างที่แปลกปลอมไปจากนิ้วของชานยอล  เม็ดทรายเล็กๆบนหาดกำลังล่วงล้ำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต  มันสากจนรู้สึกได้  แต่คนตัวสูงไม่ได้สนใจสักนิด  ยังคงเอาแต่กระทุ้งนิ้วเข้าใส่ไม่ปราณีกัน  แบคฮยอนสะอื้นเบาๆ  ทั้งทรายที่ครูดไปตามผนังด้านในและน้ำทะเลที่ยังเกาะซึมอยู่ก่อนหน้ามันทรมานยิ่งกว่าครั้งไหนๆ    

               

“อย่าร้องไห้ คนดี”  ชานยอลถอนนิ้วออกมา  ดูเหมือนแบคฮยอนจะงอแงเสียแล้ว  เขายังไม่อยากหยุดตอนนี้เมื่อมุกแห่งเกาะตะวันออกยังไม่ได้เริ่มทำหน้าที่ของมัน  เขายังไม่ได้ยินเสียงหวีดร้องของแบคฮยอน  เขายังอยากรังแกเด็กน้อยให้ถึงใจ  ชำเราเข้าใส่จนหมดแรง

               

“ฮึก…. แสบ  มัน  อ๊า!



แบคฮยอนร้องลั่นเมื่อความใหญ่โตดุนดันเข้ามาไม่บอกล่วงหน้า  ความเจ็บแสบจากเม็ดทรายและน้ำทะเลแทบจะฆ่าแบคฮยอนให้ตายทั้งเป็นได้  บัดนี้อีกสิ่งที่ไม่ต่างกันคงจะเป็นแกนกายแสนร้ายกาจของนายหัวฉลามที่พามุกเจ็ดเม็ดเข้ามาครูดแทรกรังแกผนังอุ่นแคบแข่งกัน  ท่อนแขนแข็งแรงกอดเรียวขาสองข้างที่พาดบนบ่าไว้แน่น  กระแทกเข้าใส่รัวเร็วและรุนแรง  ยิ่งได้ยินเสียงหวีดร้องลั่นเกาะก็ยิ่งชอบใจ 



ชานยอลชอบเสียงของแบคฮยอนที่สุด



ชานยอลชอบใบหน้าจิ้มลิ้มของแบคฮยอนที่สุด



ชานยอลชอบผิวกายนุ่มนิ่มของแบคฮยอนที่สุด



ชานยอลชอบสะโพกอวบแน่นเนื้อของแบคฮยอนที่สุด….  ชอบที่มันถูกเขากระแทกกระทั้นเข้าใส่  ชอบที่มันเผลอร่อนรับแกนกายของเขาอย่างลืมตัว



ชอบนายหญิงของนายหัวฉลามที่สุด



“อ๊า!!!  แบคฮยอนกระตุกเกร็งก่อนจะปลดปล่อยออกมาเมื่อแตะขอบอารมณ์  อีกแล้ว  อีกครั้งที่เขาเสร็จโยไม่ต้องแตะต้องส่วนอ่อนไหว  คนตัวเล็กเริ่มอยากจะร้องไห้จริงๆก็ครั้งนี้  ช่วงเวลานี้อับอายมากกว่าช่วงเวลาไหนๆ  ช่วงเวลาที่ถูกกระแทกจนเสร็จ  แบคฮยอนเห็นใบหน้าแห่งชัยชนะของชานยอลส่งมาให้  ร้ายกาจที่สุด    



“อืม  แบคฮยอน  คุณเป็นเด็กดี” 



“ไม่  หยุดพูด  อื้อออออ”  ความวูบโหว่งเกิดขึ้นทันทีเมื่อแกนกายปีศาจนั่นถอนออกไปอย่างรวดเร็ว  ลมทะเลพัดโกรกเข้าไปเต็มที่  ถึงไม่เห็นแต่แบคฮยอนก็รู้ว่ามันคงอ้ากว้างจนหุบไม่ลง  ร่างกายลอยหวือขึ้นด้วยท่อนแทนแน่นมัดกล้ามก่อนที่ร่างสูงใหญ่กำยำจะพาเดินเข้าไปในกระโจม 



วางเด็กน้อยที่สั่นระริกให้คลานเข่ากับพื้น  ชานยอลไม่คิดจะถอดชั้นในตัวเล็กออกไปเพราะยิ่งเรียวขาอ้าออกไม่ได้ก็ยิ่งสร้างอารมณ์  มันยิ่งเบียดชิดแน่นรัดตอดท่อนกายให้ถึงใจถึงอารมณ์ 



“อ๊ะ  อ๊า อื้ออออ  เบา  อ๊า”  เสียงหวานหวีดลั่นอีกครั้งเมื่อชานยอลแทรกกายร้อนเข้ามาอีกครั้ง   และมันทั้งแรงและเร็วยิ่งกว่าเดิม  ร่างกายถลาไปด้านหน้าตามแรงกระแทก  โยกสั่นจนน่าสงสาร  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อถึงจุดที่อารมณ์ดิบเถื่อนเข้าครอบงำแบคฮยอนคิดว่ามันเสียวซ่านทรมานและสะใจ  ความขรุขระจากเม็ดมุกเสียดสีตามผนังอุ่นภายในสร้างอารมณ์เหมือนยามถูกแมลงกัดจนคันคะเยอแล้วก็มีมือที่เล็บยาวแหลมมาเกาแรงๆเพื่อดับอาการ  มันสุดยอดอย่างไม่อาจจะยอมรับ  แม้ริมฝีปากจะปฏิเสธแต่ร่างกายกลับส่ายรับร่อนสะโพกสวนเข้าใส่อย่างหมดยางอาย



“อืมมมม  อีกนิดแบคฮยอน  อ่า  แกนกายกระตุกแรงแล้วส่งน้ำขุ่นพุ่งเข้าใสช่องทางที่ถูกชำเราอย่างน่าสงสาร  นายหัวฉลามโน้มตัวลงไปสวมกอดแผ่นหลังบอบบางแล้วดันให้นอนลงเคียงข้างกันโดยไม่ถอนแกนกายออกไป  จูบซับขมับชื้นเหงื่อ  ผิวแก้มใส  และจับมือเรียวสวยขึ้นมาจุมพิตปลอบประโลมให้กายเล็กหยุดสั่นเทาในเวลานี้  ลูบศีรษะแผ่วเบาเพื่อกล่อมให้คนที่เหนื่อยหอบเข้าสู่นิทรา



ชานยอลห่มผ้าให้แบคฮยอนที่หลับสนิทไปแล้ว  ถอดเอาเสื้อตัวบางกับชั้นในออกไปจนเหลือเพียงร่างกายเปล่าเปลือยขาวผ่องยามต้องแสงสีนวล  เอาชุดทั้งหมดของคนตัวเล็กไปผึ่งเอาไว้ด้วยกันหวังว่าเด็กน้อยของเขาจะได้ใส่มันอีกครั้งในรุ่งเช้าก่อนจะกลับไปที่เกาะฉลาม จูบลาแผ่วเบาบนริมฝีปากเล็กๆก่อนที่สองขาก้าวกลับไปที่เรือ  ทิ้งตัวลงนั่งแล้วเอนกายอย่างที่ชอบทำ  เมื่อสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่นอนในกระโจมด้วยกันตั้งแต่แรก  แน่นอนว่าคนอย่างเขาย่อมรักษาคำพูด  ดังนั้นนายหัวฉลามจะนอนเฝ้านายหญิงอยู่บนเรือตลอดทั้งคืน



The End



               



                    









 

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

I'm in love with a monster ตอน... เพื่อนพ่อ





[SPECIAL OS]  I’m in love with a monster

ตอน  เพื่อนพ่อ



ร่างสูงใหญ่กอดอกพิงประตูมองเด็กน้อยที่นั่งหน้าบูดอยู่บนเตียงกว้าง  หลงดีใจไปว่าปราบพยศได้สำเร็จ แต่ที่ไหนได้ แบคฮยอนดื้อกว่าเดิมเสียอีก โวยวายจะไปหาเพื่อน โวยวายอยากกลับบ้าน เอาแต่งอแงจะออกจากเกาะฉลามตลอดเวลา ถ้าไม่สงสารเพราะเห็นยังเจ็บตัวอยู่ สาบานว่าชานยอลจะไม่ปล่อยให้รอดแน่ๆ



"จะเอายังไง?" 



"จะกลับบ้าน!"



"เฮ้อ..."  ชานยอลถอนใจซ้ำอีกครั้ง ไม่ว่าพูดอย่างไรแบคฮยอนก็ยืนยันจะกลับบ้านท่าเดียว



"คุณจะมาทำแบบนี้ไม่ได้ ผมจะไม่อยู่ที่นี่ ผมจะกลับบ้าน"



"ทำไมถึงไม่อยากอยู่ที่นี่? ถ้ามันไม่สะดวก ไม่ชอบ ไม่ถูกใจ ผมก็ให้คุณออกแบบทุกอย่างที่เกาะนางเงือกเองอยู่แล้ว มันไม่ดีตรงไหน"



"ตรงที่ผมไม่อยากอยู่กับคุณไง! ผมอายุ18นะ ผมอยากอยู่กับพ่อแม่ อยู่กับเพื่อน ผมยังต้องเรียนหนังสือ ต้องสอบเข้ามหาวิทยาลัย  คุณจะมามัดมือชกให้ผมอยู่ที่นี่ไม่ได้!"



แบคฮยอนกำลังรู้สึกว่าตนถูกรังแก มันไม่แฟร์เลยจริงๆที่ชานยอลจะมาบังคับกันแบบนี้  ถึงพ่อกับแม่ของเขาจะยินยอมแต่เขาไม่ได้ยินยอมสักนิด ยอมรับว่ามันก็ไม่ได้แย่อะไรกับการใช้ชีวิตเป็นนายหญิงแห่งหมู่เกาะตะวันออก แต่มานึกๆดูแล้ว นี่คือสิ่งที่คนอายุ18ควรทำงั้นหรือ  เขายังอยากสนุก  ยังอยากเที่ยว  อยากเล่น แบคฮยอนคิดว่าตัวเองยังไม่พร้อมสำหรับครอบครัวฉลาม



"เรียนแถวๆนี้ก็ได้" เสนอให้ทุกทางเลือก ได้แต่หวังว่าจะมีสักทางที่คนตัวเล็กคิดว่ามันน่าสนใจ



"ผมไม่รู้ อยากกลับบ้านก่อน"



วกเข้าเรื่องกลับบ้านจนได้ ชานยอลคิดว่าเขาไม่มีทางเลือกอีกแล้ว บางทีให้กลับบ้านไปก่อนน่าจะเป็นเรื่องดีและง่ายมากกว่า มันใจว่าทั้งพ่อและแม่ของแบคฮยอนก็คงจะยืนยันอยู่ข้างเขา ถึงตอนนั้นค่อยสำเร็จโทษให้สมใจก็ยังไม่สาย...



"ได้ ตกลง พักให้หายดี อีกสองวันผมจะพาคุณกลับบ้าน"



.

.

.



ทันทีที่รถจอดสนิทแบคฮยอนก็ถลาออกมาอย่างรีบร้อน  ไม่ได้กลับบ้านเป็นสัปดาห์เห็นจะได้  คิดถึงพ่อกับแม่มากเสียจนลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้โกรธแค่ไหนที่ท่านทั้งสองตกลงยกตนเองให้ปาร์คชานยอลง่ายๆ  วินาทีที่รถของบ้านบยอนไปรับพวกเขาที่ท่าเรือ  แบคฮยอนก็กำชัยชนะเอาไว้ในมือเรียบร้อยแล้ว  รถของเขา  บ้านของเขา  ถิ่นของเขา  ถึงเวลาเอาคืนนายหัวกันแล้วล่ะ   



"แม่!" เด็กน้อยวิ่งปรี่เข้าไปในบ้านโดยไม่รอคนที่เดินตามอยู่ด้านหลัง ต่อไปนี้คือปฏิบัติการแก้แค้นจากบยอนแบคฮยอน จะเมินเสียให้เข็ด ฮึ! น่ากลัวสุดๆไปเลยใช่มั้ยล่ะ



"ไง ตัวดื้อ แล้ววิ่งเข้ามาไม่รอนายหัวเลย เสียมารยาทจริงๆ" ซูเอตีก้นลูกชายเบาๆแต่เด็กน้อยของเธอก็ดันร้องลั่นจนคนทั้งบ้านหน้าแดงกันไปหมด นึกถึงเหตุผลที่ทำให้แบคฮยอนเจ็บขนาดนี้  โธ่ ลูกแม่ โดนเขาทำจนช้ำไปหมดแล้วสินะ จะว่าโกรธอยู่ก็คงใช่ แต่นึกถึงอนาคตของครอบครัวและตัวแบคฮยอนเอง เธอจะยอมมองข้ามไปบ้างก็ได้ หลังจากนี้ค่อยมาคุยกันถึงเรื่องเบาไม้เบามือของนายหัวอีกที



"สวัสดีครับ คุณนายบยอน" ชานยอลโค้งให้หญิงสาวอย่างเคารพ ก่อนจะโค้งอีกครั้งเมื่อชายผู้เป็นเจ้าของบ้านเดินตามภรรยาออกมา "สวัสดีครับ คุณบยอน"



"โอ๊ย ไม่ต้องมีพิธีรีตองอะไรหรอกครับนายหัว มาๆ เข้าบ้าน"   บยอนโฮยอนเดินเข้าไปโอบไหล่ให้นายหัวชานยอลตามเข้ามา จริงๆพวกเขาเจอกันอยู่หลายครั้งตามงานประมูลและงานพบปะในวงการธุรกิจ เรียกว่าคุยกันถูกคอก็ไม่ผิดนักเพราะโฮยอนเจอชานยอลตั้งแต่อีกฝ่ายเพิ่งจับงายด้านธุรกิจใหม่ๆหลังเรียนจบ ในขณะที่ตนกำลังไปได้ดีด้านบริษัทเงินทุน ในตอนนั้นปาร์คชานยอลวัย23และบยอนโฮยอนวัย29ถือเป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ถูกจับตามองทั้งคู่



แบคฮยอนขมวดคิ้วทันทีที่เห็นว่าผู้เป็นพ่อให้ความสนิทสนมกับศัตรู(?)หมายเลขหนึ่งของตน  เบะปากน่าหยิกเสียจนผู้เป็นแม่จับสังเกตได้ พออธิบายให้ฟังว่าสองคนนั้นจับงานธุรกิจมาไล่เลี่ยกันจึงค่อนข้างสนิทในระดับหนึ่งแบคฮยอนก็ถึงบางอ้อทันที...



เพื่อนพ่อ!



ชานยอลเหลือบเห็นรูปครอบครัวที่วางอยู่ตามทางเดิน มีทั้งแบคฮยอนที่โตแล้วไปจนถึงแบคฮยอนตัวน้อย หน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มเสียจนไม่น่าเชื่อว่าจะแสบและดื้อได้ขนาดนี้ โฮยอนที่เห็นว่านายหัวดูจะสนอกสนใจกับรูปของลูกชายก็รีบแนะนำอย่างภูมิอกภูมิใจ แบคฮยอนหน้าตาน่ารักเหมือนแม่เสียจนใครๆก็คิดว่าเป็นเด็กผู้หญิง ผู้เป็นพ่อชี้ให้ดูตั้งแต่รูปวัยแบเบาะ รูปที่กำลังเริ่มโต ตั้งแต่หนึ่งขวบ สามขวบ และที่สะดุดตาก็คงเป็นรูปวัยห้าขวบของแบคฮยอน



เด็กน้อยหน้าตาน่ารักในชุดสูทตัวเล็ก ผมหน้าม้าปรกลงมาจนแทบจะเข้าตา รอยยิ้มกว้างที่แสนสดใส  แบคฮยอนยืนอยู่ข้างผู้เป็นพ่อในงานเลี้ยงงานหนึ่ง บยอนโฮยอนที่ยังหนุ่มยังแน่น ชานยอลจำได้ เขาอยู่ในงานนั้นด้วย ได้พูดคุยกับโฮยอนอยู่นานในฐานะที่อีกฝ่ายประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว แต่ไม่คิดว่าเด็กคนนี้จะเป็น...แบคฮยอน



ชานยอลหันกลับไปมองแบคฮยอนที่เดินกอดเอวคุณซูเอพลางทำหน้าเหมือนลูกหมาขี้สงสัยใส่กัน เจาเห็นภาพเมื่อ13ปีที่แล้วซ้อนทับขึ้นมา เด็กน้อยตัวเล็กๆที่อยู่ในสุดสูทสั่งตัดอย่างดีวิ่งไปมาในงานโดยที่เขาไม่รู้เลยว่าเด็กคนรั้นเป็นลูกเต้าเหล่าใคร มือป้อมน่ารักดึงชายเสื้อของเขาพลางกระตุกมันสองสามครั้ง  ชานยอลก้มลงมองเจ้าตัวเล็กที่ยิ้มจนตาปิดพร้อมกับพูดว่า



 'คุณอาตัวสู้งงงงง สูง'



'หรอ? แล้วเราอยากสูงเหมือนอารึเปล่าล่ะ'



'อยากคับ!'



'งั้นก็กินนมเยอะๆนะครับ แล้วจะตัวสูงเหมือนอา'



'กินนม... น้องไม่ชอบกินนมเลย' เด็กน้อยยู่ปากน่าเอ็นดูจนชานยอลต้องย่อตัวลงไปหาใกล้ๆ



'เราชื่ออะไรหรอ? คุณพ่อคุณแม่อยู่ที่ไหน?'



'ชื่อ...'



'คุณชานยอล!'



ตอนนั้นมีใครสักคนเข้ามาเรียกเขาเอาไว้ก่อนที่จะได้คุยกับเด็กน้อยจนรู้เรื่อง สุดท้ายเรื่องราวเหล่านี้ก็ถูกทิ้งร้างมานานถึง13ปี ไม่คิดว่าจะได้มาเจอกันอีกครั้งในแบบที่ไม่น่าประทับใจสักเท่าไร จริงๆแล้วคงมีแค่แบคฮยอนฝ่ายเดียวที่ไม่ประทับใจ ส่วนชานยอลนั้นประทับใจใบหน้าน่ารักน่าหยิกนี่ตั้งแต่เห็นครั้งแรกบนเรือแล้ว ไม่อย่างนั้นก็คงไม่วางแผนอุ้มขึ้นเรือไปฟัดกลางทะเลให้โดนเกลียดหรอก









ทั้งหมดทานอาหารเย็นร่วมกัน โฮยอนและชานยอลคุยเรื่องงานกันเล็กๆน้อยๆโดยมีแบคฮยอนบ่นงุ้งงิ้งแทรกขึ้นมาเรื่อยๆเพื่อฟ้องพ่อกับแม่ว่านายหัวฉลามน่ะใจร้ายแค่ไหน  พสกเขาตัดสินใจว่าเรื่องเรียนกับอนาคตของแบคฮยอนนั้นจะเอาไว้คุยกันอีกครั้งเพราะต้องใช้เวลาคิดนานเกินกว่าจะเอามาพูดคุยกันบนโต๊ะอาหาร





แบคฮยอนนอนคว่ำบนเตียงนุ่มที่แสนคิดถึง เข้าโปรแกรมแชทเพื่อจัดการสำเร็จโทษเพื่อซี้แบบเรียงตัวที่บังอาจหนีกลับมาก่อน ไล่ด่าทีละคนจนพวกนั้นต้องขอร้องให้หยุดเพราะอ่านไม่ทันแล้วจริงๆ ต่อด้วยการปรึกษาเรื่องสำคัญสุดๆอย่างสิธีแก้แค้นคนใจร้ายอย่างนายหัวฉลามจอมโรคจิต



kimkaya: ฆ่าเขาสิ แอบเข้าไปในห้องแล้วเอามีดแทงเลย



sexybaek: โหดไป นี่ไม่ใช่หนังฆาตกรรมนะ



dooppaoppa: มึงก็ปล้ำเขาคืนเลยสิ



sexybaek: นี่มึงเห็นกูโง่หรอครับ!



sexybaek: ตัวใหญ่แบบนั้นก็จะปล้ำได้ไง



gianthun: แหมะ มึงไม่โง่เลย จริงๆ



"ผมยอมให้ปล้ำง่ายๆก็ได้นะ"  เสียงทุ้มดังขึ้นข้างหูจนเจ้าของห้องถึงกับผวา หันมาเจอร่างสูงใหญ่นอนอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้



"คุณเข้ามาได้ยังไง!"



"คุณไม่ได้ล็อคประตู ผมเลยเอานมเข้ามาให้" ชานยอลคว้าเอาตัวนุ่มนิ่มมาสู่อ้อมกอดก่อนที่อีกฝ่ายจะหนีไปพ้นเสียก่อน  แบคฮยอนดีดดิ้นสุดกำลังแต่ก็ไม่อาจสู้กับแรงมหาศาลของนายหัวได้เลยแม้แต่น้อย



"นี่ปล่อยนะคุณ ผมไม่กินนม ไม่ชอบ เอาออกไปเลย เอาตัวคุณออกไปด้วย!"  แบคฮยอนอยากจะเป็นบ้ากับความอุกอาจแสนร้ายกาจของคนตัวโต อยู่ในบ้านของเขาแท้ๆแต่กลับกล้าเข้ามาทำเรื่องน่าเกลียดขนาดนี้  พ่อแม่เขาก็อยู่ห้องถัดไปนี่เอง ทำไมถึงได้นิสัยเสียแบบนี้นะ



"ไม่ชอบกินนมเลยไม่สูงรู้มั้ย" เสียงทุ้มกระซิบจนชิดใบหู จูบลงไปเบาๆให้คนโดนรังแกได้ขนลุกไปทั้งตัว



"ถึงไม่สูงก็ยืนด้วยขาตัวเองเว้ย! ปล่อยเลย นี่! ปล่อยยยยย"



"กินนมก่อน แล้วจะปล่อย"



"ไม่ชอบ!"



"งั้นไม่ปล่อย"  ชานยอลเหวี่ยงเอาร่างบอบบางราบลงไปกับที่นอน ขึ้นคร่อมทับพลางกดข้อมมือเล็กๆเอาไว้แน่น  จ้องตาประสานไม่ลดละเพื่อบอกว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นหรือจะยอมปล่อยเด็กดื้อไปง่ายๆ



"ก็คนมันไม่ชอบนี่ ทำไมคุณใจร้ายแบบนี้วะ"



"ผมว่า...การป้อนจะทำให้ดื่มง่ายขึ้นนะ" ใบหน้าหล่อคมฉายแววเจ้าเล่ห์ คว้าเอาแก้วนมขึ้นมาดื่มเสียเองก่อนจะก้มลงไปประกบเข้ากับริมฝีปากสีหวานที่ล่อใจอยู่เสมอ



"อื้ออออ" ความมันข้นลงเข้าสู่โพรงปากตามด้วยลิ้นร้อนที่ทำเอาแทบสำลักนมสดออกมา ชานยอลละริมฝีปากออกไปในขณะที่สายตายังมองดูใบหน้าขึ้นสีและริมฝีปากเผยอหอบพร้อมน้ำนมที่ไหลย้อนออกมาตามมุมปากชวนให้เข้าจู่โจมซ้ำแล้วซ้ำเล่า





เสียงริมฝีปากที่จาบจ้วงดังไปทั่วห้อง มือหนาลูบไล้ผ่านเสื้อยืดบางเบา สัมผัสผิวกายสั่นระริกอย่างเอาแค่ใจไม่สนมือเล็กๆที่ดันแผงอกของตนด้วยแรงน้อยนิด เสียงอื้ออึงบ่งบอกว่าเด็กน้อยกำลังจะขาดอากาศหายใจ นายหัวฉลามแสนใจร้ายยอมผละออกก่อนจะเปลี่ยนมาจบฟัดที่ซอกคอขาว



"ไม่ อ๊ะ เดี๋ยว อื้ออออ พ่อกับแม่ อ่าาาาา" แบคฮยอนอยากจะร้องไห้ที่ต้องมาพลาดท่าให้ชานยอลอีกครั้ง แล้วแบบนี้เมื่อไรกันที่ตนจะได้แก้แค้น จะให้ปล้ำคืนอย่างที่คยองซูว่าก็ดูจะยากเกินไป แค่ถูกจูบซับไปทั่วก็หมดเรี่ยวหมดแรงเสียแล้ว



ชานยอลไล้ต่ำลงมาถึงหน้าท้องนุ่มนิ่ม ถลกชายเสื้อให้ขึ้นไปถึงแผ่นอก ดูดดุนเลียลิ้มชิมรสจากแอ่งสะดือจรดยอดอกเม็ดเล็กสีเชอร์รี่ มองคนตัวเล็กที่ยกมือขึ้นปิดปากกลั้นเสียงครางแผ่วเพราะความเสียวซ่านก็ยิ่งอยากรังแก อยากแกล้งให้ร้องดังๆจนลั่นไปทั้งบ้าน แต่อย่างไรเสียเขาก็ต้องให้เกียรติครอบครัวบยอนด้วยเช่นกัน  ดังนั้นจะห้ามใจเอาไว้แล้วอ่อนโยนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้



"อยากปล้ำคืนดูมั้ยครับ"  กระซิบถามแผ่วเบาแต่จริงจัง ถ้าให้ทำเองรับรองได้ว่าไม่มีทางเบามืออย่างแน่นอน ปล่อยให้แบคฮยอนทำเองดูจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า



"ฮึก! คุณตายแน่ ผมจะทำให้คุณร้องลั่นไปเลย" ขู่เสียน่ากลัวทั้งๆที่สะอื้นฮึกเพราะแรงอารมณ์ไม่ได้หยุด เหมือนลูกแมวลูกหมาไม่มีผิด สองมือผลักอกกว้างให้ออกไปพ้นตัว พยุงตัวอย่างยากลำบากเมื่อตั้งหลักได้ก็คว้าเอาคนตัวใหญ่มาประกบจูบเงอะงะ ริมฝีปากบางๆจุ๊บซ้ำๆเหมือนเด็กน้อยที่คิดจะออดอ้อนมากกว่าจะปลุกปล้ำดั่งที่ประกาศเอาไว้ ลิ้นฉ่ำเลียไปมาเหมือนลูกแมวกำลังกินนม ประคองใบหน้าหล่อเหลาของคนที่อยู่นิ่งให้ปล้ำจูบมาใกล้กว่าเดิม ลูบไล้ไปตามโครงกรามสากด้วยตอหนวด



"อืม..." เสียงทุ้มในลำคอทำให้เด็กน้อยได้ใจ คิดเอาว่าอีกฝ่ายคงจะเสร็จตนเองเสียแล้วเป็นแน่ ฟันซี่เล็กขบริมฝีปากของนายหัวฉลามเบาๆ ไล้เลียงับซ้ำๆลงมาที่คางสากจนถึงลำคอสีแทนที่แสนเซ็กซี่ด้วยแอปเปิ้ลอดัมปูดนูนสองลูกติดกัน มือสวยยุกยิกปลดเปลื้องกระดุมเสื้อให้น่าพอใจ ชานยอลเดาว่าแบคฮยอนคงไม่รู้ตัวสักนิดว่าสิ่งที่ทำอยู่มันห่างไกลจากคำว่าปล้ำแค่ไหน  แต่เขาจะยอมให้อีกฝ่ายเล่นสนุกให้พอเพื่อเป็นรางวัลสำหรับความพยายาม





"คุณเสียวรึยัง?" แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นถามหลังจากที่ตนจูบต่ำลงไปเรื่อยๆจนถึงขอบกางเกงของนายหัว เริ่มคิดแล้วว่ามันออกจะเลยเถิดไปหน่อย บางทีประมาณนี้ก็คงพอแล้วสำหรับการแก้แค้นครั้งแรก ทำให้เสียวได้ก็คงชนะแล้วล่ะมั้ง



"ฮึ... ขึ้นมาอยู่ข้างบนสิ คนเก่งกว่าต้องอยู่ข้างบนนะครับ" ชานยอลว่าพลางรวมตัวแบคฮยอนให้ขึ้นมาซ้อนทับหน้าตักของตน  เด็กน้อยหน้าแดงยิ่งกว่าเก่าเมื่อรู้สึกถึงความแข็งขืนที่ดันอยู่ตรงก้นผ่านเนื้อผ้าของกางเกง ระยะห่างเพียงเล็กน้อยทำให้ทั้งคู่ได้สบตากันชัดกว่าที่เคย  แบคฮยอนมั่นใจว่าก่อนหน้านี้ดวงตาของนายหัวฉลามจอมดุไม่เคยฉายแววสิ่งใดนอกเหนือจากความเจ้าเล่ห์แต่ครั้งนี้มันต่างออกไป มันกำลังสื่อบางอย่างให้รับรู้ ลึกซึ้งและมีความหมายจนใจสั่นไปหมด คิดว่าจะโกรธจะเกลียดก็ต้องถูกกลืนกินไปตามอารมณ์อย่างไม่อาจควบคุม



มือหนาล้วงเข้าไปในกางเกงนอนของคนตัวเล็ก รั้งมันลงมาเบาๆจนแทบไม่รู้สึกตัว นิ้วยาวเลื่อนไปแตะที่ช่องทางด้านหลังแต่ไม่ทันได้รุกล้ำก็ถูกผลักออกพร้อมด้วยร่างกายเย้ายวนถอยออกมานั่งพิงหัวเตียงใบหน้าดื้อรั้นอย่างเคย



"อย่ามาแตะ วันนี้ผมจะปล้ำคุณ เพราะงั้นอยู่เฉยๆไปเลย เดี๋ยวทำเอง"  เรียวขาถีบกางเกงผ้าแสนเกะกะให้พ้นทาง ร่างกายเปลือยท่อนล่างเอนไปกับหมอนนุ่ม แยกเรียวขาออกกว้างไม่นึกอายส่งนิ้วเรียวสวยของตนไปแตะลงเบาๆที่ช่องทางด้านหลัง  นี่คือการแก้แค้น เมื่อปาร์คชานยอลหวังจะได้สัมผัสมัน บยอนแบคฮยอนก็จะไม่มีวันยอม



"เด็กจริงๆ..." นายหัวกระตุกยิ้มชอบใจกับความคิดเด็กๆของแบคฮยอน คิดหรือว่าหนีไปทำเองแบบนั้นจะแก้แค้นเขาได้ มือหนาล้วงเอาท่อนเอ็นแข็งร้อนออกมาโชว์ให้เด็กน้อยได้เห็น พลางรูดรั้งเบาๆยามสายตาเฝ้ามองนิ้วเรียวลูบวนไปตามช่องทางรักน่าชำเรา



"อื้อออออ" กดนิ้วเข้าไปช้าๆอย่างกล้าๆกลัวๆ มองดูนายหัวและฉลามยักษ์ของจ้าตัวด้วยความเขินอาย  บัดนี้ไฟในห้องสว่างจ้าผิดกับครั้งแรกบนเรือกลางทะเลนั่น ความใหญ่โตที่ขรุขระปูดนูนเพราะเส้นเลืิดและเม็ดมุกชวนให้ขนลุกไปหมด ไม่อยากจะเชื่อว่าเจ้าปีศาจแสนน่ากลัวนั่นเคยรุกล้ำชำเราร่างกายนี้มาแล้วจริงๆ





ต่างคนต่างจัดการกับส่วนของตนเอง เสียงครางแผ่วสอดประสานบ่งบอกอารมณ์ของทั้งคู่ได้อย่างดี แบคฮยอนกำลังรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ถูกต้อง ถ้าหากชานยอลเอาแต่ช่วยตัวเองแบบนั้นมันจะเหมือนว่าถูกเขาปล้ำตรงไหนกัน คิดได้แบบนั้นก็ดึงเอานิ้วเรียวออกจากช่องทางจนกายกระตุกก่อนจะพาตัวเองมาคร่อมหน้าตักแกร่งอีกครั้ง  นายหัวที่เข้าใจในสถานการณ์ก็ค่อยๆประคองเอาท่อนร้อนให้ตรงช่องทางรักที่ขมิบถี่



"ผมอยู่ข้างบน ผมชนะ" เอ่ยพลางยึดไหลกว้างแน่น ค่อยๆกดตัวลงไปช้าๆ นิ้วที่ใช้ขยายช่อทางมาก่อนหน้านี้เที่ยบไม่ได้กับขนาดที่ใหญ่โตเลยแม้แต่น้อย รู้สึกถึงความขรุขระที่ครูดไปตามผนังสร้างความเจ็บปวดและเสียวซ่านได้ในคราวเดียว



"อืม  อย่าเพิ่งรัดแบบนั้น เด็กดี" มือหนานวดคลึงก้อนเนื้อกลมแน่นสองข้างให้คนตัวเล็กได้ผ่อนคลาย



"อ๊ะ อย่า... อย่ามาสั่ง อ๊าาาาา คุณโดนปล้ำอยู่นะ... นะ อ๊า ลึก!" กดตัวลงไปจนสุด มันทั้งเจ็บทั้งเสียวทั้งอึดอัด แบคฮยอนพยายามกลั้นเสียงให้เบาที่สุดแล้วแต่มันก็เผลอร้องออกไปอยู่เรื่อย ซบหน้าลงกับไหล่กว้างก่อนจะโยกตัวช้าๆเรียกเสียงครางทุ้มจากอีกฝ่ายได้เช่นกัน





สัญญากับตัวเองเอาไว้ว่าจะอ่อนโยนชานยอลก็จะอ่อนโยน ไม่อยากจะทำจนแบคฮยอนลุกไม่ขึ้นทั้งๆที่อยู่ในบ้านของเจ้าตัวแบบนี้ ประคองเอาสะโพกผ่ายให้โยกเป็นจังหวะ ไม่รุนแรงมากนักแต่ก็ไม่ได้เนิบช้าจนเสียอารมณ์ เสียงหวานหูครางติดขัดเพราะพยายามกลั้นเสียงเอาไว้เต็มที่ ทั้งสงสารและเอ็นดูจนต้องจูบแรงๆที่แก้มยุ้ยให้คลายความรู้สึกหมั่นเขี้ยวก่อนจะเผลอทำตามอารมณ์กระแทกกระทั้นสวนขึ้นไปให้เด็กน้อยต้องบอบช้ำ



แบคฮยอนสัมผัสได้ว่านายหัวนั้นอ่อนโยนกว่าครั้งก่อนมาก แต่มันไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นเมื่อส่วนที่ชำแรกแทรกอยู่ในกายนี้ช่างร้ายกาจเหลือเกิน เขาไม่รู้ว่ามุกที่ฝังลงไปตามท่อนร้อนนั้นมีไว้เพื่ออะไร แต่มันทำให้ปั่นป่วนจนบรรยายไม่ถูก



"อ๊าาาาา จะ... จะเสร็จแล้ว อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ"  ยิ่งใกล้ถึงฝั่งฝันสะโพกอิ่มก็ยิ่งขยับเร็วขึ้นโดยอัตโนมัติ ชานยอลละมือออกจากก้นกลมมาช่วยประคองแกนกายสีอ่อนที่ถูไถกับหน้าท้องให้เสร็จสมเป็นรางวัลที่เด็กน้อยทำตัวน่ารักเหลือเกิน 



"อืม โยกแบบนั้น อ่าาา พร้อมกันนะครับ อึก!"

ความเจ็บร้าวที่ไหล่จู่โจมพร้อมกับแกนกายของเด็กน้อยปล่อยน้ำสีขุ่นพุ่งออกมาเต็มหน้าท้องแน่นไปด้วยมัดกล้าม แบคฮยอนคงกัดไหล่ของนายหัวเอาไว้ยามเสร็จสมเพราะเกรงว่าจะเผลอกรีดร้องจนพ่อแม่ต้องเข้ามาดู ในขณะเดียวกันท่อนเอ็นใหญ่คับช่องทางรักก็กระตุกปล่อยน้ำพันธุ์มหาศาลเข้าใส่จนคนโดนชำเราเสียบวูบไปทั่วท้องน้อย มือหนายกกายบอบบางให้หลุดออกมากมุกเจ็ดเม็ด ช่องทางอ้าเผยอเป็นรูกว้างไม่อาจรั้งเอาน้ำขุ่นเอาไว้ได้



ร่างกายถูกจับให้นอนคว่ำทั้งๆที่สิ้นเรี่ยวแรง ใบหน้าจิ้มลิ้มซบกับหมอนอย่างอ่อนล้าแต่สะโพกกลับโก่งขึ้นอวดสายตาจนชานยอลอดใจไม่ได้ที่จะหยิบเอาเจ้าสมาร์ทโฟนในกางเกงที่คาอยู่ตรงต้นขาของตนตั้งแต่แรกออกมาเพื่อกดเข้าโปรแกรมสำหรับถ่ายวิดีโอ  โฟกัสไปที่ช่องทางอ้ากว้างพลางเลียริมฝีปากหื่นกระหายราวกับพวกโรคจิต เด็น้อยของเขาไม่รู้ตัวสักนิดว่ากำลังถูกรังแกซ้ำเติมแบบนี้  ภาพอยู่บันทึกอย่างไม่รีบร้อน รู้กว้างเยิ้มไปด้วยน้ำขุ่นนั้นขมิบถี่ซ้ำพยายามจะหดตัวเข้าหากันน่ามองยิ่งกว่าสิ่งใด



เมื่อวันนี้ไม่อาจทำรุนแรงได้อย่างใจ นายหัวฉลามก็ขอหากำไรให้ตนเองสักหน่อย หวังว่าแบคฮยอนจะไม่ลุกขึ้นมาอาละวาดหากรู้ว่าถูกถ่ายช่วงเวลาสำคัญเอาไว้แบบนี้ คราวหน้าอยากจะลองถ่ายเอาไว้ตั้งแต่เริ่ม อย่างน้อยหากแบคฮยอนไม่ยอมไปอยู่ด้วยกันเขาก็ยังมีคลิปพวกนี้ให้หายคิดถึง



มือหนากดปิดโปรแกรมถ่ายวิดีโอแล้ววางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะข้างเตียง  ประคองสะโพกต่ำลงเพื่อให้แบคฮยอนนอนสบายขึ้น เอนตัวลงแนบชิดจูบซับเบาๆที่ไหล่ขาวเนียน โอบร่างทั้งร่างให้เข้าสู่อ้อมกอดแล้วเข้าสู่นิทราไปพร้อมกัน



THE END