วันพฤหัสบดีที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2558

เมียมือกลอง เดอะซีรี่ส์ [ตอนที่ 19 - จดหมายจากแบคฮยอน]





ตอนที่ 19 - จดหมายจากแบคฮยอน



"ทำไมเขาถึงไม่ให้นายไปตอนเปิดเรียน" ชานยอลกำลังบ่นงุ้งงิ้งเพราะผู้ใหญ่ครอยครัวบยอนบังคับให้แบคฮยอนเดินทางเร็วกว่าที่คิดไว้ ทั้งๆที่มั่นใจว่าอย่างไรก็คงไม่ต่ำกว่าสองสัปดาห์ แต่เอาจริงนี่แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น คนรวยนี่มันคนรวยจริงๆ


แต่สิ่งที่ชานยอลไม่เข้าใจที่สุดคือความคิดของคนพวกนี้ ลูกชายเป็นเกย์เลยส่งไปเมืองนอก คิดว่าไปเมืองนอกแล้วจะหายหรอครับ นี่ไม่ใช่โรคสักหน่อย ถึงจะส่งไปรักษาต่างประเทศ เดี๋ยวมันก็ไปเข้าฟิตเนสได้มีผัวฝรั่งหล่อล่ำตาฟ้าไข่ไซส์คองโก้ พี่ชานไม่มีที่ยืนเลยนะครับ


"มารีจะเปิดเทอมแล้ว พวกเขาไม่อยากให้เธอเดินทางคนเดียว" แบคฮยอนเอ่ยตอบ


"เธอ..." ชานนอลชี้หน้าคาดโทษเด็กสาวผมทองเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะกันอยู่ พวกเขานั่งกันอยู่สามคนในขณะที่พ่อแม่ของแบคฮยอนและพ่อแม่ของมารีนั่งรวมกันอยู่อีกโต๊ะที่ห่างออกไป


"ข้อโท่ดค้าาาาาาา" มารีทำหน้าสำนึกผิดสุดชีวิต


เพราะกลัวว่ารถจะติด พวกเขาถึงรีบออกมาจากบ้าน แต่สุดท้ายถนนก็โล่งจนลงไปนั่งตีดรัมมี่ได้สบายๆโดยไม่มีรถมารบกวนในระยะร้อยเมตร แล้วก็ต้องมานั่งแหงกกันอยู่ที่สนามบิน

"น่าสงสารคิมจงอินนะที่ไม่ได้มาส่งนาย" ชานยอลนึกไปถึงเพื่อนซี้แสนดีของแบคฮยอนที่ไม่น่าจะพลาดเรื่องสำคัญอย่างการมาส่งคนตัวเล็กขึ้นเครื่องได้

"อืม แต่ถ้ามาแล้วโดนตีนพ่อฉันก็น่าสงสารเหมือนกัน"

จงอินไม่ควรต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขาควรจะตอบแทนเพื่อนคนนี้ยังไง ไม่ว่าจะขอความช่วยเหลือสักกี่ครั้งอีกฝ่ายก็ไม่เคยอิดออดที่จะยื่นมือเข้ามา


"เฮ้ออออ ฉันว่าเรามีเวลาบอกลากันน้อยเกินไป ไม่คิดว่านายจะต้องไปเร็วขนาดนี้"


"อืม ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องไปเร็วขนาดนี้เหมือนกัน"




บรรยากาศเริ่มกลับเข้าสู่ความหดหู่อีกครั้ง แม้จะพยายามทำเหมือนว่าไม่เป็นอะไรแต่สุดท้ายเมื่อคิดว่าสามปีจากนี้จะไม่ได้เจอกันอีกมันก็พาให้ใจหาย ชานยอลลอบมองไปยังโต๊ะที่มีแต่ผู้ใหญ่ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้สนใจอะไรนัก


"เหลือเวลาอีกชั่วโมงนึง บอกพวกเขาว่าพี่กับแบคฮยอนไปเข้าห้องน้ำนะ" หันไปสั่งความกับมารีที่นั่งทำหน้างุนงงเพราะอยู่ๆชานยอลก็ลุกพรวดขึ้นมา



มือหนาคว้าเอาข้อมือของแบคฮยอนให้ลุกขึ้นโดยไม่สนใจแรงขืนเล็กๆจากอีกฝ่าย ออกแรงลากคนตัวเล็กให้เดินตามไปเรื่อยๆ เสียงบ่นตามหลังที่บอกว่าไม่ได้อยากเข้าน้ำนั้นไม่ทำให้ชานยอลเสียความตั้งใจ สุดท้ายก็พากันเข้ามาในห้องน้ำที่ปลอดคน


ปัง! แกร๊ก


"นี่! ล็อคประตูทำไม คนอื่นจะเข้ามายังไง" แบคฮยอนโวยวายเมื่อเห็นชานยอลกดล็อคประตูเสียอย่างนั้น


"ก็จะไม่ให้เข้านี่" ว่าจบก็เข้าประกบริมฝีปากบางไม่ให้ถกเถียงอะไรขึ้นมาอีก มอบจุมพิศแผ่วเบาซ้ำๆลงไป


"อื้อ ชาน อื้ออออ พอแล้ว"


"ฉันต้องตายแน่ๆ สามปีฉันคงต้องตายก่อน"


กดจูบลงไปอีกครั้งแต่รุนแรงกว่าเดิม ส่งผ่านความต้องการให้ถึงกันด้วยลิ้นร้อนที่กวาดไปทั่วโพรงปาก หนักหน่วง ร้อนแรง และโศกเศร้า...


"แฮ่ก.." ริมฝีปากคว่ำบางเผยอออกหอบโยนเพื่อเรียกอากาศให้ตนเองหลังจากที่ชานยอลผละออกไปแล้ว สายตาส่งหากันแทนคำพูดทุกๆอย่าง มือเรียวประคองใบหน้าหล่อเหลาอย่างอ่อนโยน สัมผัสลูบไล้อย่างรักใคร่


มือหนาสอดเข้าสัมผัสเอวนุ่มนิ่ม เค้นคลึงอย่างชอบใจ ก่อนจะจับยกร่างตรงหน้าให้ขึ้นนั่งบนอ่างล้างมือ จับเรียวขาแยกออก ดันตัวเองเข้าไปแนบชิด จูบซับตั้งแต่ขมับลงไปถึงผิวอ่อนที่ซอกคอขาว เลื่อนมือจากเอวไปบีบคลึงสะโพกแน่นแล้วสอดผ่านเอวกางเกงเข้าไปด้านในอย่างร้ายกาจ


"อื้อออ ชานยอล" ใบหน้าจิ้มลิ้มเชิดขึ้นเปิดทางให้อีกฝ่ายได้ฝากรอยรักรอบลำคอเป็นครั้งสุดท้าย สองมือซุกซนไม่ต่างกันเริ่มปลดกางเกงของร่างสูงอย่างชำนาญ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคย ซ้ำยังบอกรักเขาไปไม่รู้กี่ครั้ง จะมัวแอ๊บอยู่ก็ใช่เรื่อง


ก็อก ก็อก


ทั้งคู่สะดุ้งเฮือกเพราะเสียงเคาะจากด้านนอก มองหน้ากันเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร แต่ก็ต้องหัวเราะฮึออกมาจากลำคอเมื่อได้ได้ยินบุคคลหน้าประตูบ่นเบาๆว่าหัองน้ำคงจะเสีย ถือว่าโชคดีที่พวกเขาล็อคประตูเอาไว้ ไม่เช่นนั้นอาจจะโป๊ะแตกก่อนจะไปไหนก็ได้


รอจนแน่ใจว่าคงไม่มีใครมารบกวนอีกทั้งคู่ก็จัดการแสดงความรักและความต้องการต่อกันทันที มือหนากระชากเอากางเกงยีนส์และชั้นในของแบคฮยอนจนหลุดมาถึงหัวเข่า จูบเบาๆลงบนส่วนอ่อนไหวที่เริ่มแข็งตัวเพราะแรงอารมณ์ ไล่เลียลิ้นร้อนไปจนชุ่ม เสียงครางแผ่วเบาของแบคฮยอนนิ่งส่งให้ริมฝีปากทำงานหนักขึ้นอีก ดูดดุนจนฝ่ายถูกกระทำต้องส่งมือเรียวสวยมาจิกผมยุ่งๆของคนตัวสูงเพื่อระบายความซ่าน


"อ๊ะ อ๊าาาาา" ปลดปล่อยความต้องการเข้าสู่โพรงปากอุ่นนี่รองรับเอาไว้ทุกหยาดหยด ไม่ทันได้มีเวลาให้หายใจ แบคฮยอนก็ถูกชานยอลอุ้มลงมานืนขาสั่นบนพื้นอีกครั้ง จับพลิกลำตัวให้หันไปสบตากับตนเองผ่านกระจกเงาเหนืออ่างล้างมือ


ใบหน้าเห่อแดงร้อนรุ่มกับภาพที่ตนเองกำลังจูบซับจูบจากร่างสูงด้านหลัง ริมฝีปากของชานยอลไล้จูบไปทั่วลำคอ ก่อนจะย่อตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นเพื่อเปลี่ยนจากการจุมพิศเป็นขบกัดลงบนเนื้อนิ่มที่บั้นท้าย สองมือยึดสะโพกไม่ให้ส่ายหนี บีบคลึงอย่างชอบใจก่อนแหวกให้แยกออกจากกัน เผยช่องทางที่เชิญชวนอยู่เสมอ ลิ้นร้อนแตะเพียงเบาๆที่ปากทางก็ทำเอาแบคฮยอนสะดุ้งตัวโยน


"ไม่ อื้อออ ไม่เอาแบบนี้ อ๊า อ๊ะ ชาน ไม่ไหว" รู้สึกได้ถึงเรียวลิ้นที่พยายามจะสอดแทรกเข้ามา ไม่บ่อยนักที่ชานยอลจะทำแบบนี้ ซึ่งทุกครั้งที่ทำ แบคฮยอนก็แทบจะขาดใจตายเพราะความรู้สึกที่เสียวซ่านเกินรับ


เสียงแจะๆที่บอกถึงความชื้นแฉะนั่นฟังดูน่าเกลียดจนแบคฮยอนอยากจะยกมือขึ้นอุดหู แต่ติดที่ว่าต้องคอยยันอ่างล้างมือเอาไว้เพราะตัวเองกำลังจะหมดแรงเต็มที แบบนี้เขาต้องตายก่อนจะได้ขึ้นเครื่องไปอังกฤษแน่ๆ


"ฉันต้องคิดถึงนายมาก ฉันคงต้องตาย แบคฮยอน อืม" ชานยอลยืนขึ้นเต็มความสูง สอดแขนแข็งแรงเข้ากับเอวนิ่มมือและใช้อีกมือจับสะโพกอวบให้แอ่นขึ้นเตรียมรับความต้องการของตนเอง กระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูให้แบคฮยอนได้รับรู้ถึงสิ่งที่ตนกำลังรู้สึก


"อ๊ะ ช้าๆ อืมมมม" จับขอบอ่างแน่นเสียจนมือเรียวสวยปูดขึ้นตามแนวเส้นเลือด ชานยอลกำลังเข้ามาในตัวของเขา และมันร้อนรุ่มไปหมด


"ฉัน อ่าาาา ฉันจะคิดถึงนายทุกวัน อืม สามปีจากนี้"


"อ๊าาาา ชานยอล อ๊ะ อ๊ะ" แอ่นสะโพกสวนกลับไปอย่างลืมตัวเมื่อด้านหลังเริ่มรุนแรงมากขึ้น ใกล้จะถึงฝั่งฝันอีกครั้งทั้งๆที่คราวนี้ไม่ได้แตะต้องส่วนอ่อนไหวเลยแม้แต่น้อย เขากำลังจะเสร็จเพียงแค่ชานยอลใส่เข้ามา


"อีกนิดแบคฮยอน ฮืมมมม"


"อ๊ะ กะ อ๊ะ ใกล้ อ๊า แล้ว"


จังหวะเร่งรุนแรงมากขึ้น ใส่เข้าหากันสุดกำลังเมื่อกำลังจะแตะเพดานแห่งความต้องการทั้งคู่ ชานยอลช่วยจับสะโพกของแบคฮยอนสวนเข้ากับจังหวะของตนจนเสียงหวีดร้องดังขึ้นไม่ขาด สุดท้ายก็ปลดปล่อยเข้าสู่ร่างกายที่เขาหลงใหลจนเยิ้มออกมาด้านนอกเลอะบั้นท้ายนิ่มไหลลงสู่เรียวขาขาวพร้อมๆกับคนตัวเล็กที่ปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง


"แฮ่ก... ชาน... แฮ่ก... รักนะ"


เสียงหอบหายใจดังไปทั่วห้องน้ำ ชานยอลจดจำมันได้ดี เสียงที่แสนเซ็กซี่นี่ก้องอยู่ในหัวของเขาเสมอ ทุกๆครั้ง ทุกๆวัน ทุกๆคืน







"อ๊า... แบคฮยอน"


ผลัก! ร่างสูงใหญ่ร่วงลงไปกองกับพื้น ชานยอลสะดุ้งสุดตัว ก่อนจะผุดลุกขึ้นมามองหน้าคาดโทษคนที่เพิ่งประเคนฝ่าเท้าส่งตนมานอนวัดพื้นแบบนี้


"ไอ้ห่านี่! ฝันเปียกไม่เลือกที่ ทัวร์คอนเสิร์ตมาเกือบเดือนล่ะ ยังจะฝันเปียกได้ทุกวัน จังไรจริง" จงแดด่าเพื่อนตัวสูงที่นั่งหน้าบูดอยู่บนพื้น


"แค่นี้แกก็ต้องถีบฉันด้วยรึไง" ชานยอลบ่นอุบพลางก้มมองเป้ากางเกงตัวเองที่เปียกเป็นวงดูทุเรศลูกกะตา ก็คนมันคิดถึงเมียนี่หว่า ห้ามตัวเองได้ที่ไหนกัน




ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาชานยอลยังคงฝันถึงแบคฮยอนทุกๆวัน ภาพใบหน้าแดงซ่านในห้องนำ้ที่สนามบินวันนั้นยังติดตาเขาอยู่ เสียงบอกรักที่หอบน้อยๆก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว เขายังรู้สึกเหมือนมันเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้ ทำงานให้หนักขึ้นเพื่อที่จะเลิกเฝ้ารอเหมือนคนบ้า ถ้าความคิดถึงฆ่าคนได้ ชานยอลคงตายแล้วตายอีก


"แล้วนี่นะ โทรศัพท์แกดังไม่ได้หยุด คนจะหลับจะนอน" เพราะโทรศัพท์ของชานยอลที่ดังผิดเวลาทำเอาหงุดหงิดพอตัวอยู่แล้ว พอมาเจอเสียงครางหงิงๆข้างหูก็ยิ่งพาลให้หงุดหงิดหนักไปกันใหญ่


"ใครโทรมาอ่ะ"


"จะรู้หรอ ขึ้นชื่อว่าคิมจงอิน แต่ก็คุ้นๆนะ เมียน้อยแกรึเปล่า"


ชานยอลไม่ตอบอะไร แต่หันไปชูนิ้วกลางใส่เพื่อนตัวแสบแทน คว้าเอาโทรศัพท์ออกไปนอกระเบียง เปิดดูรายชื่อของคิมจงอินที่ขึ้นว่าโทรมาตอนตีสามก่อนจะต่อสายกลับไป


'ครับ'


"รู้มั้ยว่านี่กี่โมง" ชานยอลกรอกเสียงหงุดหงิดใส่ทันทีเมื่อจงอินรับสาย


'เกือบจะสองทุ่มแล้วครับ'


คำตอบของจงอินทำเอาชานยอลต้องชะเง้อหน้าเข้าไปดูนาฬิกาในห้อง นี่มันตีสี่นี่หว่า ไอ้เด็กไข่เยี่ยวม้ามันอยู่ไหนของมันวะ...


"นาฬิกาตายหรอมมม"


'อ่า ขอโทษครับ ผมลืมไปว่าเวลาไม่ตรงกัน ตอนนี้ผมอยู่ที่อังกฤษครับ'


"อังกฤษ? ไปดูบอลหรือไง" เขาไม่คิดว่าจงอินจะกล้าไปหาแบคฮยอนที่นู้น ถ้าพ่อแม่แบคฮยอนรู้มีหวังส่งลูกหนีไปขั้วโลกแหงๆ


'ใช่ครับ แล้วก็มาเยี่ยมแบคฮยอนด้วย'


"หรอ แล้วแบคฮยอนสบายดีมั้ย" ความคิดถึงพุ่งเข้าใจกลางความรู้สึก ชานยอลกำลังอิจฉาจงอินเหลือเกิน เขาเองก็อยากไปอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน


'ไม่ครับ'


"ไม่สบายหรอ!"


'ไม่อยู่ครับ แบคฮยอนไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว'


"หมายความว่าไง"


'มารีบอกว่า จบปีแรกแบคฮยอนก็ทำเรื่องขอเรียนหลักสูตรออนไลน์แทนครับ ตอนนี้ก็ย้ายออกไปจากบ้านของเธอได้เดือนนึงแล้ว'


"ย้ายไปไหน"


'ผมคิดว่ามารีคงรู้แต่เธอไม่ยอมบอก เธอบอกแค่ว่าแบคฮยอนส่งจดหมายมาบอกว่าสบายดีแล้วก็ฝากให้เธอส่งจดหมายต่อไปให้คุณด้วย เธอไม่ให้ผมดูตราประทับจดหมายของแบคฮยอน'


"หรอ ฉันทำงานตลอด ไม่ได้กลับไปบ้านเป็นเดือนแล้ว ไว้เสร็จงานแล้วจะกลับไปดูล่ะกัน ขอบใจนายมาก"
'ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมแค่คิดว่าคุณควรได้รู้ สวัสดีครับ'


"อืม หวัดดี"




ชานยอลกำลังสับสน เขาไม่รู้ว่าทำไมแบคฮยอนต้องย้ายออกไป หรือมารีพยายามจะปล้ำแบคฮยอนรึเปล่า? อ่า แต่ก็ไม่น่าใช่ ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนั้นไม่น่าจะปล้ำพะยูนไหว... ตบปากสามครั้ง! อย่าไปบอกแบคฮยอนนะครับว่าผมพูดแบบนี้






ตลอดการทำงานวันนี้ชานยอลเต็มที่จนหลายคนแปลกใจ ใช่ว่าทุกวันจะไม่ได้เรื่อง แค่วันนี้ตั้งใจมากเกินปกติ แม้จะตื่นตั้งแต่ตีสี่เพราะฝันเปียกจนถูกจงแดถีบตกเตียงแล้วต้องมาคุยโทรศัพท์กับคิมจงอินต่อ แต่เขาก็ไม่รู้สึกอ่อนเพลียแม้แต่น้อย ตอนนี้คิดแค่ว่ารีบทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับบ้านเท่านั้น


"ขับเร็วๆหน่อยไม่ได้หรอพี่" ชายยอลเร่งซ้ำอยู่หลายรอบคนคริสที่ขับรถอยู่ต้องหันมาแยกเขี้ยวใส่ด้วยความรำคาญ


"ไม่ต้องรีบมากหรอกพี่ เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมด" จงแดยังคงทำหน้าที่ขัดแข้งขัดขาเพื่อนตัวสูงได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง


"ไอ้ห่า..." สุดท้ายมือกลองก็ยอมแพ้ ทิ้งตัวเอนหลังนั่งตามเดิม อดใจรออีกไม่นานเขาก็จะถึงบ้านแล้ว ครั้งนี้มีเรื่องให้ใส่ใจมากกว่า เขาจะยอมปล่อยจงแดไปก่อนก็แล้วกัน




 เพราะท่าทางเร่งรีบของชานยอลทำให้คริสยอมเห็นใจ มาส่งเจ้าตัวที่บ้านก่อนจะพาลิงตัวอื่นๆไปทิ้งที่บริษัท ชานยอลรีบพุ่งเข้าใส่ตู้จดหมายในทันที ไม่คิดแม้แต่จะเสียเวลาเข้าไปหยิบกุญแจในบ้านออกมาไขเปิด มือหนาพยายามล้วงเข้าไปในช่องแคบๆอย่างยากลำยาก ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางทำหน้าที่เป็นตะเกียบจำเป็น คีบเอาซองจดหมายบางๆขึ้นมา


ตราประทับจาก ลอนดอน


แน่ล่ะ ในเมื่อคนส่งคือมารี ไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมแบคฮยอนถึงไม่ยอมส่งมาให้เขาเอง กลัวเขาจะรู้หรือไงว่าอยู่ที่ไหน แล้วถ้าเขารู้มันมีอะไรต้องกลัวกันเล่า


เดินเข้าไปในบ้านพร้อมซองแสนรักแสนหวง วางทุกอย่างทิ้งที่ข้างประตูก่อนจะพาตัวเองไปหย่อนก้นลงบนโซฟานุ่ม เปิดซองจดหมายดูอย่างใจเย็น  ไล่อ่านภาษาเกาหลีที่เขียนจากลายมือแสนคุ้นเคย แค่ลายมือของแบคฮยอนก็ทำเอาใจเต้นแรงแล้ว






'เป็นไง ไอ้หูกาง


ฉันไม่ได้ดูข่าวเกี่ยวกับนายเลยล่ะ แต่คิดว่านายคงทำงานหนักน่าดู รักษาสุขภาพด้วยนะ ฉันเป็นห่วงมากๆ จดหมายนี่ฉันฝากมารีส่งมาให้ แต่ตัวฉันไม่ได้อยู่ที่อังกฤษแล้ว ที่นั่นสนุกมาก สนุกจนฉันคิดว่าถ้าต้องสนุกแบบนี้ตลอดสามปี ฉันอาจจะลืมนายก็ได้ เพราะงั้นถึงย้ายออก


ที่นี่ดูดีมากเลยล่ะ เมืองเล็กๆแต่สวยมาก มองไปตรงไหนก็สวยไปหมด โรแมนติกเหมือนที่เห็นในหนังเลย แค่เดือนเดียวที่นี่ก็ทำฉันตัวซีดไปหมด แดดแทบไม่ออกเลย ฝนตกเกือบตลอดเวลา แปลกดีใช่มั้ย ฉันชอบที่นี่นะ แต่ก็ชอบบ้านที่อยู่กับนายมากกว่า


ฉันคงไม่ได้ส่งจดหมายหานายอีก ไม่อยากรบกวนมารีเท่าไร เกรงใจเธอจริงๆ อีกอย่างพอเธอจบไฮสคูลแล้วก็ต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่โซลอยู่ดี เธอคงไปก่อนฉันแน่ๆ ตอนนั้นก็ฝากดูแลเธอด้วยนะ ส่วนเราคงได้เจอกันอีกเมื่อถึงเวลา ฉันรักนายนะ คิดถึงมากๆเลย'






ชานยอลอ่านจบก็แทบจะเป็นบ้ากับความคิดของแบคฮยอน ย้ายไปที่อื่นเพราะอังกฤษสนุกเกินไปเนี่ยนะ งี่เล่าพอๆกับที่คุณบยอนส่งเจ้าตัวไปอังกฤษเพราะเป็นเกย์เลย แต่ว่า...ที่ไหนกันนะ แบคฮยอนไปอยู่ที่ไหน


เมืองเล็กๆ ที่ฝนตกตลอดเวลา... โรแมนติกเหมือนในหนังงั้นหรอ? ที่ไหนกัน แบคฮยอน



TBC.








ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น