ตอนที่ 19 - จดหมายจากแบคฮยอน
"ทำไมเขาถึงไม่ให้นายไปตอนเปิดเรียน"
ชานยอลกำลังบ่นงุ้งงิ้งเพราะผู้ใหญ่ครอยครัวบยอนบังคับให้แบคฮยอนเดินทางเร็วกว่าที่คิดไว้
ทั้งๆที่มั่นใจว่าอย่างไรก็คงไม่ต่ำกว่าสองสัปดาห์
แต่เอาจริงนี่แค่สัปดาห์เดียวเท่านั้น คนรวยนี่มันคนรวยจริงๆ
แต่สิ่งที่ชานยอลไม่เข้าใจที่สุดคือความคิดของคนพวกนี้
ลูกชายเป็นเกย์เลยส่งไปเมืองนอก คิดว่าไปเมืองนอกแล้วจะหายหรอครับ
นี่ไม่ใช่โรคสักหน่อย ถึงจะส่งไปรักษาต่างประเทศ
เดี๋ยวมันก็ไปเข้าฟิตเนสได้มีผัวฝรั่งหล่อล่ำตาฟ้าไข่ไซส์คองโก้
พี่ชานไม่มีที่ยืนเลยนะครับ
"มารีจะเปิดเทอมแล้ว
พวกเขาไม่อยากให้เธอเดินทางคนเดียว" แบคฮยอนเอ่ยตอบ
"เธอ..."
ชานนอลชี้หน้าคาดโทษเด็กสาวผมทองเพียงหนึ่งเดียวที่นั่งร่วมโต๊ะกันอยู่
พวกเขานั่งกันอยู่สามคนในขณะที่พ่อแม่ของแบคฮยอนและพ่อแม่ของมารีนั่งรวมกันอยู่อีกโต๊ะที่ห่างออกไป
"ข้อโท่ดค้าาาาาาา"
มารีทำหน้าสำนึกผิดสุดชีวิต
เพราะกลัวว่ารถจะติด พวกเขาถึงรีบออกมาจากบ้าน
แต่สุดท้ายถนนก็โล่งจนลงไปนั่งตีดรัมมี่ได้สบายๆโดยไม่มีรถมารบกวนในระยะร้อยเมตร
แล้วก็ต้องมานั่งแหงกกันอยู่ที่สนามบิน
"น่าสงสารคิมจงอินนะที่ไม่ได้มาส่งนาย"
ชานยอลนึกไปถึงเพื่อนซี้แสนดีของแบคฮยอนที่ไม่น่าจะพลาดเรื่องสำคัญอย่างการมาส่งคนตัวเล็กขึ้นเครื่องได้
"อืม
แต่ถ้ามาแล้วโดนตีนพ่อฉันก็น่าสงสารเหมือนกัน"
จงอินไม่ควรต้องมาเจอเรื่องแบบนี้
แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขาควรจะตอบแทนเพื่อนคนนี้ยังไง
ไม่ว่าจะขอความช่วยเหลือสักกี่ครั้งอีกฝ่ายก็ไม่เคยอิดออดที่จะยื่นมือเข้ามา
"เฮ้ออออ ฉันว่าเรามีเวลาบอกลากันน้อยเกินไป
ไม่คิดว่านายจะต้องไปเร็วขนาดนี้"
"อืม
ฉันก็ไม่คิดว่าตัวเองจะต้องไปเร็วขนาดนี้เหมือนกัน"
บรรยากาศเริ่มกลับเข้าสู่ความหดหู่อีกครั้ง
แม้จะพยายามทำเหมือนว่าไม่เป็นอะไรแต่สุดท้ายเมื่อคิดว่าสามปีจากนี้จะไม่ได้เจอกันอีกมันก็พาให้ใจหาย
ชานยอลลอบมองไปยังโต๊ะที่มีแต่ผู้ใหญ่ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้สนใจอะไรนัก
"เหลือเวลาอีกชั่วโมงนึง
บอกพวกเขาว่าพี่กับแบคฮยอนไปเข้าห้องน้ำนะ"
หันไปสั่งความกับมารีที่นั่งทำหน้างุนงงเพราะอยู่ๆชานยอลก็ลุกพรวดขึ้นมา
มือหนาคว้าเอาข้อมือของแบคฮยอนให้ลุกขึ้นโดยไม่สนใจแรงขืนเล็กๆจากอีกฝ่าย
ออกแรงลากคนตัวเล็กให้เดินตามไปเรื่อยๆ
เสียงบ่นตามหลังที่บอกว่าไม่ได้อยากเข้าน้ำนั้นไม่ทำให้ชานยอลเสียความตั้งใจ
สุดท้ายก็พากันเข้ามาในห้องน้ำที่ปลอดคน
ปัง! แกร๊ก
"นี่! ล็อคประตูทำไม คนอื่นจะเข้ามายังไง"
แบคฮยอนโวยวายเมื่อเห็นชานยอลกดล็อคประตูเสียอย่างนั้น
"ก็จะไม่ให้เข้านี่"
ว่าจบก็เข้าประกบริมฝีปากบางไม่ให้ถกเถียงอะไรขึ้นมาอีก มอบจุมพิศแผ่วเบาซ้ำๆลงไป
"อื้อ ชาน อื้ออออ พอแล้ว"
"ฉันต้องตายแน่ๆ สามปีฉันคงต้องตายก่อน"
กดจูบลงไปอีกครั้งแต่รุนแรงกว่าเดิม
ส่งผ่านความต้องการให้ถึงกันด้วยลิ้นร้อนที่กวาดไปทั่วโพรงปาก หนักหน่วง ร้อนแรง
และโศกเศร้า...
"แฮ่ก.."
ริมฝีปากคว่ำบางเผยอออกหอบโยนเพื่อเรียกอากาศให้ตนเองหลังจากที่ชานยอลผละออกไปแล้ว
สายตาส่งหากันแทนคำพูดทุกๆอย่าง มือเรียวประคองใบหน้าหล่อเหลาอย่างอ่อนโยน
สัมผัสลูบไล้อย่างรักใคร่
มือหนาสอดเข้าสัมผัสเอวนุ่มนิ่ม
เค้นคลึงอย่างชอบใจ ก่อนจะจับยกร่างตรงหน้าให้ขึ้นนั่งบนอ่างล้างมือ
จับเรียวขาแยกออก ดันตัวเองเข้าไปแนบชิด
จูบซับตั้งแต่ขมับลงไปถึงผิวอ่อนที่ซอกคอขาว
เลื่อนมือจากเอวไปบีบคลึงสะโพกแน่นแล้วสอดผ่านเอวกางเกงเข้าไปด้านในอย่างร้ายกาจ
"อื้อออ ชานยอล"
ใบหน้าจิ้มลิ้มเชิดขึ้นเปิดทางให้อีกฝ่ายได้ฝากรอยรักรอบลำคอเป็นครั้งสุดท้าย
สองมือซุกซนไม่ต่างกันเริ่มปลดกางเกงของร่างสูงอย่างชำนาญ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่เคย
ซ้ำยังบอกรักเขาไปไม่รู้กี่ครั้ง จะมัวแอ๊บอยู่ก็ใช่เรื่อง
ก็อก ก็อก
ทั้งคู่สะดุ้งเฮือกเพราะเสียงเคาะจากด้านนอก
มองหน้ากันเพราะไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร
แต่ก็ต้องหัวเราะฮึออกมาจากลำคอเมื่อได้ได้ยินบุคคลหน้าประตูบ่นเบาๆว่าหัองน้ำคงจะเสีย
ถือว่าโชคดีที่พวกเขาล็อคประตูเอาไว้ ไม่เช่นนั้นอาจจะโป๊ะแตกก่อนจะไปไหนก็ได้
รอจนแน่ใจว่าคงไม่มีใครมารบกวนอีกทั้งคู่ก็จัดการแสดงความรักและความต้องการต่อกันทันที
มือหนากระชากเอากางเกงยีนส์และชั้นในของแบคฮยอนจนหลุดมาถึงหัวเข่า
จูบเบาๆลงบนส่วนอ่อนไหวที่เริ่มแข็งตัวเพราะแรงอารมณ์ ไล่เลียลิ้นร้อนไปจนชุ่ม
เสียงครางแผ่วเบาของแบคฮยอนนิ่งส่งให้ริมฝีปากทำงานหนักขึ้นอีก
ดูดดุนจนฝ่ายถูกกระทำต้องส่งมือเรียวสวยมาจิกผมยุ่งๆของคนตัวสูงเพื่อระบายความซ่าน
"อ๊ะ อ๊าาาาา"
ปลดปล่อยความต้องการเข้าสู่โพรงปากอุ่นนี่รองรับเอาไว้ทุกหยาดหยด
ไม่ทันได้มีเวลาให้หายใจ แบคฮยอนก็ถูกชานยอลอุ้มลงมานืนขาสั่นบนพื้นอีกครั้ง
จับพลิกลำตัวให้หันไปสบตากับตนเองผ่านกระจกเงาเหนืออ่างล้างมือ
ใบหน้าเห่อแดงร้อนรุ่มกับภาพที่ตนเองกำลังจูบซับจูบจากร่างสูงด้านหลัง
ริมฝีปากของชานยอลไล้จูบไปทั่วลำคอ
ก่อนจะย่อตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นเพื่อเปลี่ยนจากการจุมพิศเป็นขบกัดลงบนเนื้อนิ่มที่บั้นท้าย
สองมือยึดสะโพกไม่ให้ส่ายหนี บีบคลึงอย่างชอบใจก่อนแหวกให้แยกออกจากกัน
เผยช่องทางที่เชิญชวนอยู่เสมอ
ลิ้นร้อนแตะเพียงเบาๆที่ปากทางก็ทำเอาแบคฮยอนสะดุ้งตัวโยน
"ไม่ อื้อออ ไม่เอาแบบนี้ อ๊า อ๊ะ ชาน
ไม่ไหว" รู้สึกได้ถึงเรียวลิ้นที่พยายามจะสอดแทรกเข้ามา ไม่บ่อยนักที่ชานยอลจะทำแบบนี้
ซึ่งทุกครั้งที่ทำ แบคฮยอนก็แทบจะขาดใจตายเพราะความรู้สึกที่เสียวซ่านเกินรับ
เสียงแจะๆที่บอกถึงความชื้นแฉะนั่นฟังดูน่าเกลียดจนแบคฮยอนอยากจะยกมือขึ้นอุดหู
แต่ติดที่ว่าต้องคอยยันอ่างล้างมือเอาไว้เพราะตัวเองกำลังจะหมดแรงเต็มที
แบบนี้เขาต้องตายก่อนจะได้ขึ้นเครื่องไปอังกฤษแน่ๆ
"ฉันต้องคิดถึงนายมาก ฉันคงต้องตาย แบคฮยอน
อืม" ชานยอลยืนขึ้นเต็มความสูง
สอดแขนแข็งแรงเข้ากับเอวนิ่มมือและใช้อีกมือจับสะโพกอวบให้แอ่นขึ้นเตรียมรับความต้องการของตนเอง
กระซิบเสียงพร่าที่ข้างหูให้แบคฮยอนได้รับรู้ถึงสิ่งที่ตนกำลังรู้สึก
"อ๊ะ ช้าๆ อืมมมม"
จับขอบอ่างแน่นเสียจนมือเรียวสวยปูดขึ้นตามแนวเส้นเลือด ชานยอลกำลังเข้ามาในตัวของเขา
และมันร้อนรุ่มไปหมด
"ฉัน อ่าาาา ฉันจะคิดถึงนายทุกวัน อืม
สามปีจากนี้"
"อ๊าาาา ชานยอล อ๊ะ อ๊ะ"
แอ่นสะโพกสวนกลับไปอย่างลืมตัวเมื่อด้านหลังเริ่มรุนแรงมากขึ้น
ใกล้จะถึงฝั่งฝันอีกครั้งทั้งๆที่คราวนี้ไม่ได้แตะต้องส่วนอ่อนไหวเลยแม้แต่น้อย
เขากำลังจะเสร็จเพียงแค่ชานยอลใส่เข้ามา
"อีกนิดแบคฮยอน ฮืมมมม"
"อ๊ะ กะ อ๊ะ ใกล้ อ๊า แล้ว"
จังหวะเร่งรุนแรงมากขึ้น
ใส่เข้าหากันสุดกำลังเมื่อกำลังจะแตะเพดานแห่งความต้องการทั้งคู่
ชานยอลช่วยจับสะโพกของแบคฮยอนสวนเข้ากับจังหวะของตนจนเสียงหวีดร้องดังขึ้นไม่ขาด
สุดท้ายก็ปลดปล่อยเข้าสู่ร่างกายที่เขาหลงใหลจนเยิ้มออกมาด้านนอกเลอะบั้นท้ายนิ่มไหลลงสู่เรียวขาขาวพร้อมๆกับคนตัวเล็กที่ปลดปล่อยออกมาเป็นครั้งที่สอง
"แฮ่ก... ชาน... แฮ่ก... รักนะ"
เสียงหอบหายใจดังไปทั่วห้องน้ำ
ชานยอลจดจำมันได้ดี เสียงที่แสนเซ็กซี่นี่ก้องอยู่ในหัวของเขาเสมอ ทุกๆครั้ง
ทุกๆวัน ทุกๆคืน
"อ๊า... แบคฮยอน"
ผลัก! ร่างสูงใหญ่ร่วงลงไปกองกับพื้น
ชานยอลสะดุ้งสุดตัว
ก่อนจะผุดลุกขึ้นมามองหน้าคาดโทษคนที่เพิ่งประเคนฝ่าเท้าส่งตนมานอนวัดพื้นแบบนี้
"ไอ้ห่านี่! ฝันเปียกไม่เลือกที่
ทัวร์คอนเสิร์ตมาเกือบเดือนล่ะ ยังจะฝันเปียกได้ทุกวัน จังไรจริง"
จงแดด่าเพื่อนตัวสูงที่นั่งหน้าบูดอยู่บนพื้น
"แค่นี้แกก็ต้องถีบฉันด้วยรึไง"
ชานยอลบ่นอุบพลางก้มมองเป้ากางเกงตัวเองที่เปียกเป็นวงดูทุเรศลูกกะตา
ก็คนมันคิดถึงเมียนี่หว่า ห้ามตัวเองได้ที่ไหนกัน
ตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมาชานยอลยังคงฝันถึงแบคฮยอนทุกๆวัน
ภาพใบหน้าแดงซ่านในห้องนำ้ที่สนามบินวันนั้นยังติดตาเขาอยู่
เสียงบอกรักที่หอบน้อยๆก็ยังวนเวียนอยู่ในหัว
เขายังรู้สึกเหมือนมันเพิ่งผ่านไปเมื่อวานนี้
ทำงานให้หนักขึ้นเพื่อที่จะเลิกเฝ้ารอเหมือนคนบ้า ถ้าความคิดถึงฆ่าคนได้
ชานยอลคงตายแล้วตายอีก
"แล้วนี่นะ โทรศัพท์แกดังไม่ได้หยุด
คนจะหลับจะนอน"
เพราะโทรศัพท์ของชานยอลที่ดังผิดเวลาทำเอาหงุดหงิดพอตัวอยู่แล้ว
พอมาเจอเสียงครางหงิงๆข้างหูก็ยิ่งพาลให้หงุดหงิดหนักไปกันใหญ่
"ใครโทรมาอ่ะ"
"จะรู้หรอ ขึ้นชื่อว่าคิมจงอิน แต่ก็คุ้นๆนะ
เมียน้อยแกรึเปล่า"
ชานยอลไม่ตอบอะไร
แต่หันไปชูนิ้วกลางใส่เพื่อนตัวแสบแทน คว้าเอาโทรศัพท์ออกไปนอกระเบียง
เปิดดูรายชื่อของคิมจงอินที่ขึ้นว่าโทรมาตอนตีสามก่อนจะต่อสายกลับไป
'ครับ'
"รู้มั้ยว่านี่กี่โมง"
ชานยอลกรอกเสียงหงุดหงิดใส่ทันทีเมื่อจงอินรับสาย
'เกือบจะสองทุ่มแล้วครับ'
คำตอบของจงอินทำเอาชานยอลต้องชะเง้อหน้าเข้าไปดูนาฬิกาในห้อง
นี่มันตีสี่นี่หว่า ไอ้เด็กไข่เยี่ยวม้ามันอยู่ไหนของมันวะ...
"นาฬิกาตายหรอมมม"
'อ่า ขอโทษครับ ผมลืมไปว่าเวลาไม่ตรงกัน
ตอนนี้ผมอยู่ที่อังกฤษครับ'
"อังกฤษ? ไปดูบอลหรือไง"
เขาไม่คิดว่าจงอินจะกล้าไปหาแบคฮยอนที่นู้น ถ้าพ่อแม่แบคฮยอนรู้มีหวังส่งลูกหนีไปขั้วโลกแหงๆ
'ใช่ครับ แล้วก็มาเยี่ยมแบคฮยอนด้วย'
"หรอ แล้วแบคฮยอนสบายดีมั้ย"
ความคิดถึงพุ่งเข้าใจกลางความรู้สึก ชานยอลกำลังอิจฉาจงอินเหลือเกิน
เขาเองก็อยากไปอยู่ตรงนั้นเหมือนกัน
'ไม่ครับ'
"ไม่สบายหรอ!"
'ไม่อยู่ครับ แบคฮยอนไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว'
"หมายความว่าไง"
'มารีบอกว่า
จบปีแรกแบคฮยอนก็ทำเรื่องขอเรียนหลักสูตรออนไลน์แทนครับ
ตอนนี้ก็ย้ายออกไปจากบ้านของเธอได้เดือนนึงแล้ว'
"ย้ายไปไหน"
'ผมคิดว่ามารีคงรู้แต่เธอไม่ยอมบอก
เธอบอกแค่ว่าแบคฮยอนส่งจดหมายมาบอกว่าสบายดีแล้วก็ฝากให้เธอส่งจดหมายต่อไปให้คุณด้วย
เธอไม่ให้ผมดูตราประทับจดหมายของแบคฮยอน'
"หรอ ฉันทำงานตลอด
ไม่ได้กลับไปบ้านเป็นเดือนแล้ว ไว้เสร็จงานแล้วจะกลับไปดูล่ะกัน ขอบใจนายมาก"
'ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมแค่คิดว่าคุณควรได้รู้
สวัสดีครับ'
"อืม หวัดดี"
ชานยอลกำลังสับสน
เขาไม่รู้ว่าทำไมแบคฮยอนต้องย้ายออกไป หรือมารีพยายามจะปล้ำแบคฮยอนรึเปล่า?
อ่า แต่ก็ไม่น่าใช่ ผู้หญิงตัวเล็กๆแบบนั้นไม่น่าจะปล้ำพะยูนไหว...
ตบปากสามครั้ง! อย่าไปบอกแบคฮยอนนะครับว่าผมพูดแบบนี้
ตลอดการทำงานวันนี้ชานยอลเต็มที่จนหลายคนแปลกใจ
ใช่ว่าทุกวันจะไม่ได้เรื่อง แค่วันนี้ตั้งใจมากเกินปกติ
แม้จะตื่นตั้งแต่ตีสี่เพราะฝันเปียกจนถูกจงแดถีบตกเตียงแล้วต้องมาคุยโทรศัพท์กับคิมจงอินต่อ
แต่เขาก็ไม่รู้สึกอ่อนเพลียแม้แต่น้อย
ตอนนี้คิดแค่ว่ารีบทำงานให้เสร็จแล้วรีบกลับบ้านเท่านั้น
"ขับเร็วๆหน่อยไม่ได้หรอพี่" ชายยอลเร่งซ้ำอยู่หลายรอบคนคริสที่ขับรถอยู่ต้องหันมาแยกเขี้ยวใส่ด้วยความรำคาญ
"ไม่ต้องรีบมากหรอกพี่
เดี๋ยวก็ตายห่ากันหมด"
จงแดยังคงทำหน้าที่ขัดแข้งขัดขาเพื่อนตัวสูงได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง
"ไอ้ห่า..." สุดท้ายมือกลองก็ยอมแพ้
ทิ้งตัวเอนหลังนั่งตามเดิม อดใจรออีกไม่นานเขาก็จะถึงบ้านแล้ว
ครั้งนี้มีเรื่องให้ใส่ใจมากกว่า เขาจะยอมปล่อยจงแดไปก่อนก็แล้วกัน
เพราะท่าทางเร่งรีบของชานยอลทำให้คริสยอมเห็นใจ
มาส่งเจ้าตัวที่บ้านก่อนจะพาลิงตัวอื่นๆไปทิ้งที่บริษัท
ชานยอลรีบพุ่งเข้าใส่ตู้จดหมายในทันที ไม่คิดแม้แต่จะเสียเวลาเข้าไปหยิบกุญแจในบ้านออกมาไขเปิด
มือหนาพยายามล้วงเข้าไปในช่องแคบๆอย่างยากลำยาก
ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางทำหน้าที่เป็นตะเกียบจำเป็น คีบเอาซองจดหมายบางๆขึ้นมา
ตราประทับจาก ลอนดอน
แน่ล่ะ ในเมื่อคนส่งคือมารี
ไม่เข้าใจสักนิดว่าทำไมแบคฮยอนถึงไม่ยอมส่งมาให้เขาเอง กลัวเขาจะรู้หรือไงว่าอยู่ที่ไหน
แล้วถ้าเขารู้มันมีอะไรต้องกลัวกันเล่า
เดินเข้าไปในบ้านพร้อมซองแสนรักแสนหวง
วางทุกอย่างทิ้งที่ข้างประตูก่อนจะพาตัวเองไปหย่อนก้นลงบนโซฟานุ่ม
เปิดซองจดหมายดูอย่างใจเย็น
ไล่อ่านภาษาเกาหลีที่เขียนจากลายมือแสนคุ้นเคย แค่ลายมือของแบคฮยอนก็ทำเอาใจเต้นแรงแล้ว
'เป็นไง ไอ้หูกาง
ฉันไม่ได้ดูข่าวเกี่ยวกับนายเลยล่ะ
แต่คิดว่านายคงทำงานหนักน่าดู รักษาสุขภาพด้วยนะ ฉันเป็นห่วงมากๆ
จดหมายนี่ฉันฝากมารีส่งมาให้ แต่ตัวฉันไม่ได้อยู่ที่อังกฤษแล้ว ที่นั่นสนุกมาก
สนุกจนฉันคิดว่าถ้าต้องสนุกแบบนี้ตลอดสามปี ฉันอาจจะลืมนายก็ได้
เพราะงั้นถึงย้ายออก
ที่นี่ดูดีมากเลยล่ะ เมืองเล็กๆแต่สวยมาก
มองไปตรงไหนก็สวยไปหมด โรแมนติกเหมือนที่เห็นในหนังเลย
แค่เดือนเดียวที่นี่ก็ทำฉันตัวซีดไปหมด แดดแทบไม่ออกเลย ฝนตกเกือบตลอดเวลา
แปลกดีใช่มั้ย ฉันชอบที่นี่นะ แต่ก็ชอบบ้านที่อยู่กับนายมากกว่า
ฉันคงไม่ได้ส่งจดหมายหานายอีก
ไม่อยากรบกวนมารีเท่าไร เกรงใจเธอจริงๆ
อีกอย่างพอเธอจบไฮสคูลแล้วก็ต้องไปเรียนต่อมหาวิทยาลัยที่โซลอยู่ดี
เธอคงไปก่อนฉันแน่ๆ ตอนนั้นก็ฝากดูแลเธอด้วยนะ ส่วนเราคงได้เจอกันอีกเมื่อถึงเวลา
ฉันรักนายนะ คิดถึงมากๆเลย'
ชานยอลอ่านจบก็แทบจะเป็นบ้ากับความคิดของแบคฮยอน
ย้ายไปที่อื่นเพราะอังกฤษสนุกเกินไปเนี่ยนะ
งี่เล่าพอๆกับที่คุณบยอนส่งเจ้าตัวไปอังกฤษเพราะเป็นเกย์เลย แต่ว่า...ที่ไหนกันนะ
แบคฮยอนไปอยู่ที่ไหน
เมืองเล็กๆ ที่ฝนตกตลอดเวลา... โรแมนติกเหมือนในหนังงั้นหรอ?
ที่ไหนกัน แบคฮยอน
TBC.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น