วันศุกร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[OS Special Christmas] I'm in love with a monster ตอน... คนทำดี ย่อมมีรางวัล





  [OS Special  Christmas]

                I’m  in  love  with  a  monster

                ตอนคนทำดี  ย่อมมีรางวัล





                ร่างเล็กนั่งเท้าคางมองการก่อสร้างตรงหน้าที่คืบหน้าไปเพียงเล็กน้อย  แบคฮยอนต้องนอนในกระโจมเล็กๆโล่งๆมา 5คืนติดกันเพราะบ้านพักที่ต้องการนั้นสร้างไม่เสร็จเสียที  ใจอยากจะเร่งให้คนงานสร้างมันทั้งวันทั้งคืน  แต่ตาแก่เอาแต่ใจปาร์คชานยอลสั่งให้ทุกคนออกจากเกาะนางเงือกแห่งนี้ก่อนพระอาทิตย์ตกดินทุกวัน  ใครฝ่าฝืนจะจับไปโยนเป็นมื้อดึกให้ฉลามกลางทะเล  ส่วนเจ้าตัวก็ขับเรือมาจอดเลียบชายหาดแล้วนอนเฝ้าอยู่ทุกคืนทั้งๆที่คุณพ่อบ้านก็บอกว่านายหัวต้องเคลียร์งานทั้งวันไม่ค่อยมีเวลาพักแต่ก็ไม่ยอมกลับไปนอนสบายๆที่บ้าน   แปลกคนจริงๆ



                “นายหญิงครับ  วันนี้คงต้องพอก่อนนะครับ  อีกเดี๋ยวนายหัวจะมาแล้ว”  ซายังเดินมาแจ้งให้นายหญิงตัวเล็กฟังว่าบัดนี้ถึงเวลาที่คนงานทั้งหมดต้องออกจากเกาะแล้ว



                “เป็นแบบนี้แล้วเมื่อไรมันจะเสร็จอ่ะคุณซายัง”  แบคฮยอนเบะปากมองสภาพโครงสร้างที่ดูท่าว่าจะไม่เสร็จง่ายๆ 



                “มันช่วยไม่ได้นี่ครับ  คนงานมีเวลาต่อวันแค่นิดหน่อย  นายหัวไม่ยอมให้มีคนอื่นอยู่บนเกาะตอนที่นายหญิงหลับอยู่หรอกครับ”



                คนตัวเล็กครุ่นคิดถึงวิธีที่จะทำให้บ้านเสร็จโดยเร็ว  ไม่ใช่แค่ตนจะได้เข้าอยู่แต่อีกคนที่ต้องมานอนเฝ้าทุกคืนก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน  ต้องทำงานทั้งวันข้ามไปเกาะนู้นทีเกาะนี้ที  เคลียร์เรื่องยุ่งยากหลายเรื่อง   คิดว่าอีกไม่นานคงได้ทรุดแน่  อายุก็ไม่ใช่น้อยๆแล้วด้วย  แต่ที่คิดแบบนี้ใช่ว่าแบคฮยอนจะเป็นห่วงอะไรอีกฝ่ายหรอกนะ  แค่ไม่อยากเห็นคนต้องเจ็บป่วยโดยมีตนเป็นสาเหตุก้เพียงเท่านั้น



                “เอางี้  ผมจะกลับไปนอนที่เกาะฉลาม  คนงานจะได้อยู่นานขึ้น  เสร็จแล้วค่อยกลับมาอีกที  แบบนี้ได้ใช่มั้ยครับ”



                “ถ้าแบบนั้นก็ไม่น่าจะมีปัญหานะครับ  นายหัวเองจะได้พักเต็มที่ด้วย”



                .

                .

                .

               

                แบคฮยอนเขี่ยข้าวในจานไปมาเมื่อตนใกล้จะอิ่มเต็มที่แต่ยังไม่เห็นนายหัวฉลามออกมาร่วมโต๊ะกินข้าวเสียที  ตั้งใจจะรอกินพร้อมกันตั้งแต่ทีแรก ก็หิวจนทนไม่ไหวต้องจัดการลงมือกินไปก่อน  แต่ถ้าจะให้กินอิ่มเก็บโต๊ะไม่รออีกฝ่ายก็ดูจะเสียมารยาทเกินรับได้  ตั้งแต่มาถึงเกาะฉลามคนตัวเล็กก็ไม่เจอปาร์คชานยอลแม้แต่เงา  ไม่รู้ว่างานการมันมากมายจนต้องหอบกลับมาทำต่อที่บ้านเลยหรืออย่างไร  ข้าวปลาไม่กินแบบนี้จะเอาแรงที่ไหนกัน



                “นายหัวล่ะครับ”  เอ่ยถามกับพ่อบ้านที่เพิ่งออกมาจากในครัว



                “อ่อ  นายหัวคงไม่ได้ออกมาทานน่ะครับ  เห็นว่าพรุ่งนี้ต้องเข้าเมืองไปประชุม  ต้องเตรียมตัวเยอะเลย  ทั้งเอกสารทั้งเสื้อผ้า   อย่างที่นายหญิงเห็นนั่นล่ะครับ  ท่าทางนั่นน่ะ….   ซายังโน้มเข้ามาใกล้ขึ้นก่อนจะกระซิบเบาๆ   “เหมือนโจรไม่มีผิด”



                “ฮ่า ฮ่า ฮ่า  จริงครับ  จริงๆ”   แบคฮยอนเห็นด้วยกับคุรพ่อบ้านทุกประการ  รวยล้นฟ้าอย่างนายหัวฉลาม  ออกไปเดินในเมืองด้วยร่างออริจินัลแบบนั้นคงมีแต่คนคิดว่าเป็นพวกผู้ก่อการร้าย



                “อย่าบอกว่าผมแอบนินทานะครับ”  ซายังโค้งเล็กน้อยก่อนจะกลับเข้าไปในครัวอีกครั้ง 



                แบคฮยอนกำลังคิดว่าตนน่าจะช่วยอะไรได้บ้างในฐานะนายหญิงของที่นี่  ถึงจะยังเด็กซ้ำไม่มีความรู้เรื่องธุระกิจแต่เรื่องเล็กๆน้อยๆก็พอจะทำได้  ตัดสินใจวางช้อนส้อมแล้วรีบพาตัวเองไปทำประโยชน์ให้ครอบครัวฉลามทันที  ตรงดิ่งไปที่ห้องของนายหัวแล้วเปิดเข้าไปราวกับว่านี่เป็นห้องของตนเอง 



                “คุณ!  มีไรให้ช่วยป่าว”



                หืม?”   ชานยอลยืนขมวดคิ้วขึ้นปมอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าเมื่อเห็นว่าสุดที่รักเข้ามาหาถึงในห้องซ้ำยังแสดงน้ำใจโดยการยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือเขาแม้จะไม่รู้ว่าคนตัวเล็กพยายามจะช่วยอะไรก็ตามที   “แบคฮยอนอยากช่วยอะไนรล่ะครับ”



                “ก็แล้วคุณอยากให้ผมช่วยอะไรล่ะ  เลือกชุดให้มั้ย?”



                “ผมเลือกได้แล้วล่ะ  ว่าแต่วันนี้คุณมีน้ำใจจัง  เป็นอะไรไปครับ”  อดที่จะถามไม่ได้เมื่ออยู่ๆคนที่เอาแต่ต่อต้านตลอดมาทำตัวเชื่องใส่  ชานยอลอยากรู้เหลือเกินว่านายหญิงจอมดื้อนึกอะไรขึ้นมา



                “เอ้า!  ผมก็อยากทำตัวให้มีประโยชน์บ้าง  ผิดหรือไง  ไม่อยากให้ช้วยก็ไม่ช่วยก็ได้!   แบคฮยอนกระทืบเท้าปึงปักหวังจะออกไปจากห้องแต่ก็ถูกคนตัวโตคว้าเอาไว้ได้เสียก่อน  จะขัดขืนก็สู้แรงไม่ไหวสุดท้ายก็ถูกเข้าอุ้มพาดบ่าแบบงงๆ  แม้จะโวยวายดังลั่นก็ไม่อาจหยุดคนที่กำลังตรงดิ่งเข้ามาในห้องน้ำได้  คนตัวเล็กถูกวางลงบนเคาน์เตอร์หน้ากระจกโดยมีชานยอลเข้ามาประกบล็อคตัวเอาไว้กันหนี 



                “ผมกำลังจะโกนหนวด  โชคดีที่มีคนอยากช่วย”



                “คุณจะให้ผมโกนให้หรอ”  แบคฮยอนมองอุปกรณ์ที่ถูกเตรียมเอาไว้ก่อนหน้าก็กระพริบตาปริบๆ  ดูก็รู้ว่ามันเอาไว้โกนหนวดแต่ปัญหาคือแบคฮยอนโกนไม่เป็นนี่น่ะสิ  คนมันไม่มีหนวดนี่หน่า  อายุ 18แล้วแต่หนวดก้ไม่ยอมขึ้นเสียที  ของพวกนี้เขาไม่เคยใช้หรอก



                “คุณทำไม่เป็นหรือ”  ชานยอลเอ่ยถามเมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กยังนิ่งอยู่  แล้วก้ได้คำตอบในทันทีที่เห็นว่าใบหน้าเนียนใสนั่นส่ายรัว  ท่าทางเหมือนเด็กๆนั่นทำให้คนมองต้องเผลอยิ้ม  แค่ส่ายหน้ายังน่ารักได้ร้ายกาจถึงขนาดนี้  แบคฮยอนนี่พรีเมี่ยมจริงๆ  







                "อืออออ"   ใบหน้าน่ารักเบี่ยงหนีเมื่อถูกริมฝีปากหนาจู่โจม มือสวยตีเข้าเต็มแรงที่แผ่นอกกว้าง ดูเหมือนนายหัวฉลามจะได้ใจเหลือเกิน แค่แบคฮยอนยอมดีด้วยก็ฉวยโอกาสตอนเผลอรังแกกันทันที  รู้อย่างนี้จะไม่ยอมออกมาจากเกาะนางเงือกหรอก ปล่อยให้นอนตากลมตากคลื่นบนเรือไปซะ



"ไม่ได้กอดตั้งหลายวัน  อย่าดื้อสิ ไม่ใช่เราจะมีโอกาสพูดกันดีๆบ่อยๆหรอกนะครับ"   งานถนัดอีกอย่างของนายหัวฉลามนอกจากใช้แรงบังคับเอาแต่ใจแล้วก็คงเป็นการพูดจาหว่านล้อมกับนายหญิงของตน  เพราะไม่ว่าจะกี่ครั้งแบคฮยอนก็พลาดท่าเพราะเชื่อคำกล่อมจอมเจ้าเล่ห์อยู่เรื่อย



"ก็อย่ามาทำตัวโรคจิตสิ!"



"โรคจิต?  โธ่... คนดี  คุณคิดว่ามาเป็นนายหญิงของเกาะฉลามมันจะมีหน้าที่แค่นั่งๆนอนๆหรือ  นอกจากจะช่วยกันทำงานแล้ว  พวกเราก็ต้องช่วยกันทำลูกด้วย"



"นี่! ผมไม่มีมดลูกนะ!"   กำปั้นน้อยๆชกเข้าใส่อีกครั้งหลังจากได้ฟังนายหัวพูดจาลามกไม่มียางอาย  จริงอยู่ที่มาเป็นนายหญิงแล้วเรื่องอย่างว่าคงเลี่ยงไม่ได้  ตกลงปลงใจตามเขามาเองจะมาเล่นตัวก็กระไรอยู่  ครั้งแรกก็เป็นของเขาไปแล้ว ครั้งที่สองครั้งที่สามก็เป็นของเขาอีก  พูดกันตรงๆว่าเซ็กส์ไม่ใช่สิ่งที่แบคฮยอนพยายามจะบ่ายเบี่ยง แต่เป็นความรุนแรงและไอ้มุกเจ็ดเม็ดนั่นต่างหากเล่า  เขาจะต้องได้ช้ำตายเข้าสักวันแน่ๆ



"ไม่ลองไม่รู้นะ ระดับผมอาจจะทำคนไม่มีมดลูกท้องก็ได้"   ให้ตาย... เรื่องลามกกับมั่นหน้าเกินพอดีไม่มีใครเกินปาร์คชานยอลแล้ว



"ถ้าทำเจ็บจะหนีกลับบ้านจริงๆด้วย"   แบคฮยอนพูดจบก็จัดการรั้งคอคนตัวโตให้ลงมารับจุมพิตแผ่วเบา





มือหนารั้งเอวนิ่มเข้าหาตัวแฃ้วแทกเข้าหว่างขาจนร่างกายแนบชิดกันไปทุกส่วน  ตอบรับจูบเบาหวิวของเด็กน้อยด้วยความช่ำชอง  บดคลึงริมฝีปากจาบจ้วงรุนแรงส่งลิ้นร้อนเข้ากวาดต้อนชิมความหวานราวกับจะสูบเอาพลังชีวิตทั้งหมดของนายหญิงฉลามตัวเล็กมาไว้ที่ตนจนหมดสิ้น

น้ำใสไหลเยิ้มออกตามข้างปากบางๆจนคนรุกล้ำต้องละออกเพื่อตามมาฉกชิมจนเลยเถิดถึงลำคอขาวนวลที่ยังมีร่องรอยทำรักจางๆให้เห็น  มือหนาจัดการถกเอาเสื้อยืดตัวบางให้พ้นออกไปจากร่างกายเย้ายวนที่รอเวลาให้เขาเข้าไปรังแก  เสียงครางอื้ออึงของแบคฮยอนยิ่งปลุกอารมณ์ให้ชานยอลอยากจะฟัดร่างนุ่มนิ่มนี่ให้อ่อนยวบคามือ  ท่าทางว่าจะเบาแรงอย่างที่คนตัวเล็กขอร้องไม่ได้เสียแล้ว



ขบเบาๆตามผิวกายเนียนละเอียดไล้ต่ำลงมาเรื่อยๆลอบมองปฏิกิริยาตอบรับของคนตัวเล็กที่หดเกร็งหน้าท้องเป็นระยะเพราะความหวามหวิว  สองมือเค้นคลึงไปทั่วแล้วรีบรั้งกางเกงและชั้นในที่ขวางทางให้พ้นๆออกไปเสียที  แบคฮยอนหน้าแดงซ่านเมื่อเห็นว่าตัวเองเปลือยเปล่าต่อหน้าอีกฝ่าย  ยกมือขึ้นปิดหน้าเอาไว้ด้วยความขวยเขินยังไม่วายได้ยินเสียงทุ้มหัวเราะแว่วเข้ามาให้ได้อายยิ่งกว่าเดิม 



อย่าให้พวกเพื่อนชั่วรู้เชียวว่าครั้งนี้แบคฮยอนสมยอมเขาเต็มที่  เห็นแก่ความดีที่อุตส่าห์ไปนอนตากลมเฝ้าอยู่หลายคืน   ยอมลืมเรื่องลามกที่อีกฝ่ายทำไปจนหมดและหวังว่าครั้งนี้จะเริ่มต้นกันใหม่ด้วยความอ่อนโยน  ไหนๆก็คิดจะอยู่ด้วยกันแล้ว  ปรับตัวกันสักหน่อยก็ไม่เสียหายล่ะนะ



“ดูสิครับ   ผมอยากให้คุณมองพวกเราชัดๆด้วยตาของคุณเอง”   ชานยอลบอกพลางย่อตัวลงนั่งคุกเข่ากับพื้นห้องน้ำ  จับเรียวขาขาวแยกออกจากกันจนแกนกายสั่นระริกและช่องทางขมิบถี่ปรากฏสู่สายตา  มองคนตัวเล็กที่ค่อยๆเอามือออกจากหน้าแล้วประสานสายตากันจนแก้มยุ้ยแดงปลั่ง  กระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนจะก้มลงไปแตะลิ้นร้อนกับทางรักจนคนโดนกระทำออกอาการสะดุ้งเล็กๆ



แบคฮยอนเบือนหน้าหนีเมื่อเห็นว่าชานยอลกำลังทำเรื่องลามกกับร่างกายของตนเอง  น่าโมโหที่อีกฝ่ายบอกให้เขามองดูชัดๆ  ใครกันเล่าจะไปทนดูได้  ต้องมาถูกจับแยกขาลงลิ้นราวกับพวกนางเอกหนังAVที่พวกจงอินชอบเอามาเปิด  น่าอายที่สุด!



“อ๊ะ!  สะโพกกลมกระตุกเมื่อรู้สึกได้สองมือหน้าที่บีบเค้นก้นแน่นเนื้อแล้วแบะออกพร้อมลิ้นร้อนที่แทรกลงไปลึกถึงด้านใน  มันซ่านเสียวจนอดร้องออกมาไม่ได้  ความรู้สึกที่ไม่ได้รุนแรงแต่ก็ร้ายกาจนี่มันอันตรายเหลือเกินยามต้องมารับรู้แบบมีสติครบถ้วน  ครั้งนี้ไม่ใช่การบังคับที่แบคฮยอนจะเอาแต่ขัดขืนจนไม่สนใจอะไร  แต่มันคือการยินยอมให้เขารังแกและต้องรับรู้ทุกสัมผัสอย่างชัดเจน   เสียวจนเผลอร่อนสะโพกตามจังหวะลงลิ้นของนายหัวฉลามที่ก้มหน้าก้มตาชำเราช่องทางร่วมรักอย่างเอาแต่ใจ



                “แฉะแล้วนะครับ”  ชานยอลผละใบหน้าออกมามองผลงานปลุกเร้าของตนอย่างพอใจ  ยืนขึ้นเต็มความสูงแล้วปลดกางเกงของตนเองออกอย่างใจเย็นแม้ว่าจะกำลังร้อนไปทั้งตัวก็ตาม  ถกชั้นในลงไปจนแกนกายแสนร้ายกาจดีดออกมาเพราะแข็งจนตั้งลำเตรียมใช้งานเต็มที่  ประคองใบหน้าน่ารักให้รับจุมพิตก่อนจะจับบังคับให้มองมาที่ส่วนกลางของตนเอง  ยิ่งคนตัวเล็กพยายามจะเบือนหนีก็ยิ่งจับให้มองดูชัดๆจนชินสายตา



                “ฮืออออ   ผมกลัวมันจริงๆนะ”   ดวงตาปริ่มน้ำใสเพราะใจระทึกที่ทั้งกลัว กังวล  และลุ้นไปกับอาวุธร้ายของนายหัวฉลามที่ไม่ว่าจะมองกี่ครั้งก็ไม่ชิน  สภาพขรุขระจากมุกงามแห่งทะเลตะวันออกนั้นทำให้มันดูแตกต่าง  แต่แบคฮยอนก็รู้แสนยานุภาพของมันดี  ทั้งเจ็บ  ทั้งเสียว  ทั้งทรมาน  แต่ก็ถึงใจชนิดที่ว่าทำให้เขาเผลอแอ่นรับจนลืมไปว่าไม่ได้เต็มใจจะถูกเขาชำเราตั้งแต่แรก



                “กลัวทำไมครับ   ผมต่างหากที่ต้องกลัว   คุณน่ะ กินมันไปหมดทุกครั้งเลย”   คำพูดปลอบขวัญแสนลามกนั่นทำให้ชานยอลต้องถูกมือสวยฟาดให้หลายที   แบคฮยอนชะโงกหน้ามองแกนกายฝังมุกลำใหญ่ค่อยๆจ่อมาที่ช่องทางของตนด้วยใจสั่นรัว  จิกเล็บลงกับท่อนแขนแน่นกล้ามที่กำลังดันขาขาวให้อ้าออก 



                “อ๊า  เจ็บเจ็บ”   ความเจ็บร้าวแล่นเข้ามาทันทีที่ส่วนหัวดุนดันเข้าใส่  น้ำตารื่นขึ้นกว่าเดิมเมื่อมันไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น  ลำกายใหญ่สอดเข้ามาเรื่อยๆจนสุดโคน  เสียงหอบหายใจประสานกันก้องไปทั่วห้องน้ำ  มุกที่ถูกฝั่งเอาไว้ยังคงทำหน้าที่ของมันได้ดีเช่นทุกๆครั้ง  ยามครูดไปตามผนังด้านในนั้นสร้างความทรมานได้อย่างถึงที่สุด  ยิ่งสะโพกหนาขยับเบาๆก็เรียกเสียงหวีดร้องขึ้นทันที  แบคฮยอนห้ามตัวเองไม่ให้สั่นระริกไม่ได้  ห้ามตัวเองไม่ให้ครางดังๆไม่ได้  ครั้งนี้จะโทษใครไม่ได้ทั้งนั้น  ก็สมยอมเองแบบนี้  จะยอมแพ้ไม่ได้  ต้องกัดฟันสู้ให้สุดใจ  ด้วยศักดิ์ศรีของนายหญิงฉลาม  จะไม่ถอยเด็ดขาด!



                สายตาจ้องภาพที่ช่องทางของตนกลืนกินแกนกายของชานยอลไม่ละสายตา  ยิ่งมองก็ยิ่งพาให้อารมณ์พุ่งสูง  เสียงหวีดร้องแห่งความเสียวซ่านไม่มีกลั้นให้อึดอัดแต่อย่างใด  นายหัวฉลามไม่ได้อ่อนโยนตามที่เขาขอร้อง  แต่ก็ไม่ได้รุนแรงเช่นครั้งก่อน  มุกที่ถูไปตามผนังแคบนั้นถึงใจจนต้องซูดปากดังๆ  ดูเหมือนว่าแบคฮยอนกำลังพาตัวเองเข้าสู่วังวนแห่งความป่าเถื่อนในเซ็กส์ตามแบบฉบับของฉลามร้ายแสนเจ้าเล่ห์เสียแล้ว 



                “อืม  แบคฮยอน  ขมิบถี่ๆครับ”



                “อ๊า!!!   มัน  จะถึง”  แกนกายสั่นระริกเตรียมปลดปล่อย  แบคฮยอนกำลังติดใจการถึงจุดสุดยอดโดยไม่ต้องสัมผัส  ติดใจกับการถูกรังแกจนทนไม่ไหว  มันแปลกใหม่สำหรับเด็กอายุ 18อย่างเขา 



                “พร้อมกัน.…  ชานยอลเร่งจังหวะเข้าใส่เต็มที่   ครั้งนี้ถือว่าดีเยี่ยมเหมือนเดิม  ถึงแบคฮยอนจะยินยอมแต่เด็กน้อยก็คือเด็กน้อย  ความไม่เป็นงานนี่แหละที่ถึงใจที่สุด  ใจเต้นระรัวทุกครั้งที่ได้รังแก  บางที่เขาก็คิดว่าตัวเองคงเป็นโรคจิตอย่างที่แบคฮยอนว่า 



                “โอ๊ย  อีกนิด  โอ๊ย  โอ๊ย  อ๊า!!!



                .

                .

                .



                ร่างเปลือยเปล่ากอดรัดกันแนบแน่นบนเตียงกว้าง  หลังจากเสร็จกิจแล้วชานยอลก็พาแบคฮยอนไปอาบน้ำทำความสะอาดก่อนจะพากันมานอนพักร่างกายที่เมื่อยล้า   คนตัวเล็กยังไม่ได้หลับใหลเพียงแต่นอนซุกอกกว้างนิ่งๆเท่านั้น 



                “คุณยังไม่ได้โกนหนวดเลย”  เอ่ยพลางผละจากอกแกร่งแล้วมองดูใบหน้าดุที่ยังมีหนวดเคราอยู่เหมือนเดิม  จริงๆต้องยอมรับว่าแบคฮยอนชอบความสากของมัน  แต่เพราะพรุ่งนี้ชานยอลต้องเข้าไปทำธุระ  จะปล่อยให้ไปสภาพโจรก็ดูจะไม่เหมาะ



                “ไม่เป็นไรหรอกครับ  จริงๆไปแบบนี้ก็ได้” 



                “เอาจริง?”



                “คราวก่อนก็ไปแบบนี้  มีไม่กี่ครั้งหรอกครับที่จะเรียบร้อย  มีแค่ช่วงแรกๆนั่นแหละที่จะเรียบร้อยตลอด”  ด้วยความสัตย์จริง  ชีวิตปาร์คชานยอลก็เหมือนเด็กนักเรียนที่ปีแรกๆก็เรียบร้อยมาดเนียบทุกวันแต่ปีหลังๆก็ปล่อยๆไปบ้างตามโอกาส  ยิ่งตอนนี้เขาอายุก็ไม่ใช่น้อยแล้ว  นายหญิงก็มีเป็นตัวเป็นตนนอนอยู่ตรงนี้  คงไม่ต้องรักษาภาพลักษณ์ไปให้ใครมอง  นักลงทุนทั้งหลายก็คงไม่ได้ตัดสินใจจากหนวดเคราของเขาเป็นหลักแน่  เพราะแค่คิดว่าจะได้ลงทุนในน่านน้ำที่ใหญ่ที่สุดก็พากันแห่มาหมด  ต่อให้หน้าเหมือนโจรไปเซ็นสัญญาก็คงไม่ถูกปฏิเสธแน่นอน



                “ท่าทางคุณคงไม่ชอบเข้าไปวุ่นวายในเมืองเท่าไร”



                “ครับ  ผมไม่ค่อยชอบ  ยกเว้นครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อนที่ได้เจอ….   ชานยอลเงียบไปทั้งๆที่ยังพูดไม่ทันจบประโยค  ส่งสายตาประสานให้คนตัวเล็กที่อยู่ในอ้อมอก  ดวงตาลูกหมาแสดงอาการสงสัยอย่างชัดเจนจนต้องเผลอหัวเราออกมา  “เจอเด็กน้อยคนนึงน่ะครับ  เด็กคนนั้นน่ารักมากๆเลย”



                “คุณชอบเด็กหรอ?  อ่า  แต่หน้าตาคุณเหมือนแก๊งค์ขโมยเด็กมากกว่า”  



                “อย่าเรียกว่าชอบเลยครับ  เรียกว่ารักดีกว่า”   มือหนาประคองใบหน้าน่ารักให้เชิดขึ้นกว่าเดิมก่อนจะประทับริมฝีปากลงไปบนหน้าผากมนแผ่วเบา  “ผมน่ะ  รักเด็กที่สุดเลย”





                THE  END



                #นจมอด


วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

I'm in love with a monster ตอน... นายหญิงฉลามแห่งเกาะนางเงือก




[OS Special CHAN’s DAY]

I’m in love with a monster

          ตอนนายหญิงฉลามแห่งเกาะนางเงือก



“มึง”  แบคฮยอนชี้หน้าจงอินที่เพิ่งจะโผล่พ้นประตูเข้ามาในร้านกาแฟที่ตนนัดเอาไว้  ก่อนจะชี้ไปที่เพื่อนอีกสองคนอย่างเซฮุนและคยองซูที่ตามกันเข้ามาติดๆ  “มึง  แล้วก็มึงด้วย  พวกมึงมาช้า  กูรอเป็นชั่วโมงแล้วนะ”



“ซอรี่ค่ะ  พวกกูไปทำธุระมา”  จงอินเอ่ยด้วยสีหน้ายียวนจนเพื่อนตัวเล็กที่นั่งทำหน้างอต้องชกเข้าที่ไหล่เบาๆเพราะความหมั่นไส้



“จะมีธุระอะไรสำคัญไปกว่าการที่กูนัดมาเพื่อจะคุยเรื่องเตรียมสอบ”  แบคฮยอนท่าทางจริงจังแต่เพื่อนอีกสามคนกลับขมวดคิ้วแสดงความสงสัยออกมา 



“สอบไรมึง?” 



“ก็ซูนึงไง  พวกมึงลืมหรอ”  คนตัวเล็กไม่เข้าใจสักนิดว่าเพื่อนๆของตนทำไมถึงได้เอื่อยเฉื่อยกันนักทั้งๆที่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้เข้ามาทุกทีแล้ว  พูดเรื่องสอบก็ทำหน้างงกันหมด  สงสัยคิดว่าจบมัธยมก็สบายแล้วสินะ  ไม่เตรียมตัวอะไรเลย



“พวกกูไม่ต้องสอบ  คยองซูพยายามอธิบาย  “นี่มึงไม่รู้หรอว่าพวกกูได้โควตาเข้ามอชังมี”



อะ! ไร! นะ!



.

.

.



“คุณก็เลยโกรธแล้วพรวดพราดกลับมาบ้านโดยไม่ฟังเพื่อนพูดต่อหรอ”   ชานยอลนั่งฟังแบคฮยอนบ่นอยู่นานนับชั่วโมงตั้งแต่ที่คนตัวเล็กกลับมา  ดูเหมือนเรื่องที่ทำเจ้าตัวขุ่รข้องหมองใจจะเกี่ยวกับเพื่อนทั้งสามคนที่ได้โควต้าเข้ามหาวิทยาลัยอันดับต้นๆกันหมดแล้วไม่ยอมบอกให้รู้  เขาก็พอจะได้ยินจากครอบครัวบยอนว่าเด็กน้อยของเขาเรียนไม่เก่งเอาเสียเลย  คงจะทำให้พลาดโควต้าไปในขณะที่เพื่อนๆได้กันหมด 



“แล้วจะอยู่ทำไม  แค่นี้ผมก็เหมือนโดนถีบตกทางเท้าไปนอนคว่ำหน้าบนถนนให้รถสิบล้อทับตาย  แล้วถ้าบังเอิญไม่ตายผมก็จะกัดลิ้นตัวเองซะให้ขาดใจเพราะอายเกินกว่าจะเงยหน้าขึ้นมาสบตาขอความช่วยเหลือจากคนอื่น  คุณเข้าใจมั้ยเนี่ย  ผมโดนเพื่อนทิ้งแล้ว  พวกนั้นไม่บอกอะไรเลย  ตั้งใจจะไปเรียนกันสามคนแล้วก็ปล่อยให้ผมไปแข่งไถนากับน้องทุยกลางแดดร้อนจัดในอุณหภูมิสี่สิบองศาที่ประเทศไทย  ผมไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วอ่ะ”



แบคฮยอนระบายอารมณ์ยาวจนคนโตกว่าฟังไม่ทัน  ความน้อยใจพุ่งขึ้นสิบระดับ  ไหนจะความโกรธที่ตีตื้นเข้ามาโดยที่เจ้าตัวก็ยังตอบไม่ได้ว่าโกรธเพื่อนเพราะอะไร  จะโกรธที่เพื่อนไม่บอก  โกรธที่เพื่อนได้โควตาแต่ตนไม่ได้  โกรธที่เพื่อนทำเหมือนจะทิ้งตนเอาไว้คนเดียว  หรือโกรธที่ตนเองฉลาดไม่พอที่จะตามเพื่อนไป  มหาวิทยาลัยชังมีเป็นสถาบันเกรดดีที่สุดในสาขาเฉพาะทางด้านบริหาร  และก็เข้ายากที่สุดเช่นกัน  ใช่ว่าแค่มีเงินก็จะเสนอหน้าเข้าไปนั่งเรียนได้  ที่นี่ต้องสอบเข้าไปเท่านั้นโดยแยกออกจากการสอบซูนึงของมหาวิทยาลัยอื่นๆเพื่อจะคัดเด็กได้ละเอียดยิ่งกว่า  แน่นอนว่าสติปัญญาระดับล่างอย่างบยอนแบคฮยอนไม่มีทางจะเข้าได้



นอกจากหน้าตากับฐานะแล้วแบคฮยอนก็ไม่มีดีอะไรอีก  โง่ก็โง่  ทำอะไรเองก็ไม่เป็นสักอย่าง  เอาแต่ใจก็เท่านั้น  ซ้ำยังมนุษยสัมพันธ์แย่สุดๆ  มีแค่เพื่อนสามคนที่คบกันมานาน  นอกนั้นคนตัวเล็กก็ไม่มีเพื่อนคนไหนอีกแล้ว  นิสัยติดลบจนคนอื่นยี้กันหมด  ถ้าหากเข้ามหาวิทยาลัยชังมีตามพวกจงอินไปไม่ได้  คุณหนูบยอนก็หัวเดียวกระเทียมลีบเพราะไปที่อื่นคงไม่มีใครคบ



“ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วคุณจะไปไหนล่ะ  เปลี่ยนใจอยากไปกับผมขึ้นมาแล้วหรือ”  ชานยอลแค่ลองถามออกไปเพราะแบคฮยอนดูท่าจะดื้อเกินกว่าจะยอมเขาง่ายๆ  แต่วินาทีนี้ที่คนตัวเล็กกำลังสับสนดูจะเหมาะกับการล่อลวงเป็นที่สุด   ใครจะว่าชานยอลเป็นตาแก่โรคจิตที่ลุ่มหลงความน่ารักน่าฟัดของเด็กน้อยรุ่นหลานก็ตามแต่  เขาไม่ใส่ใจทั้งนั้น  ท้าพนันได้ว่าหากใครมาเจอตัวเล็กๆผิวขาวๆหน้าตาจิ้มลิ้มและนิสัยพยศเหมือนลูกแมวที่คิดว่าตัวเองเป็นเสือคงอยากจับมาตีก้นแรงๆให้สาแก่ใจกันทั้งนั้น  แต่ว่าหากใครกล้าทำแบบนั้นกับแบคฮยอนของเขารับรองได้ว่าจะจับมันโยนลงทะเลให้เป็นอาหารฉลามเสีย



“คุณเคยบอกว่าจะยกเกาะนางเงือกให้ผมใช่มั้ย?”

“ในกรณีที่คุณเป็นนายหญิงฉลาม  ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ  ชานยอลต้องบอกให้แบคฮยอนเข้าใจ



“ผมทำอะไรกับมันก็ได้ใช่มั้ย”



“ทุกอย่างยกเว้นระเบิดมันทิ้ง”



“สร้างบ้านได้รึเปล่า”



“ได้”



“ห้างสรรพสินค้าล่ะ”



“ห๊ะ”  ชานยอลขมวดคิ้วมองเด็กน้อยเอาแต่ใจที่ทำสีหน้าคาดหวังสุดชีวิตก็ตัดสินใจรับปากอย่างเสียมิได้  “ได้สิ”



“สนามบิน”



“ความคิดดี  ผมก็วางแผนจะสร้างสนามบินกลางทะเลอยู่เหมือนกัน”  เรื่องสนามบินถือว่าเข้าท่าไม่น้อยเพราะชานยอลเองก็มีโครงการเรื่องนี้อยู่  อาจไม่ใหญ่โตแต่ก็พอจะให้จอดเครื่องบินส่วนตัวได้



“แล้วผมจะย้ายอะไรไปไว้ที่เกาะก็ได้ใช่รึเปล่า”



“ได้ทั้งหมดที่คุณต้องการ  คุณอยากย้ายอะไรไปล่ะ  เตียงนอนสี่เสาหลังใหญ่ของคุณ  หรือจะให้ย้ายห้องคุณทั้งห้องไปเลย”



“ย้ายมหาวิทยาลัยชังมีไปสิ”



“คือ ถ้าผมทำไม่ได้  คุณก็จะไม่ยอมไปอยู่กับผมหรอ”



“ทำไมถึงทำไม่ได้ล่ะ  คุณรวยขนาดนี้   เขาพูดกันว่านายหัวฉลามผู้ยิ่งใหญ่ทำได้ทุกอย่างไม่ใช่หรอ  แค่นี้ทำไม่ได้แล้วผมจะไปฝากชีวิตกับคุณได้ยังไง”



“ผมเสียใจ แบคฮยอน  ผมทำไม่ได้”  ชานยอลยอมรับแต่โดยดี  ใครที่ไหนมันจะไปย้ายมหาวิทยาลัยทั้งสถาบันมาไว้ที่เกาะได้  “แต่ผมให้คนไปอุ้มเพื่อนคุณมาไว้ที่เกาะได้นะ”



“ตกลง!



ด้วยประการฉะนี้เด็กน้อยแบคฮยอนวัย 18ปีจึงถูกคุณอาผู้เป็นเพื่อนพ่อวัย 36ปีล่อลวงมาเป็นสมาชิกครอบครัวฉลามได้สำเร็จโดยที่ไม่ต้องออกแรงหรือใช้กำลังใดๆ  ซ้ำครอบครัวบยอนก็ไว้ใจให้ปาร์คชานยอลได้ดูแลลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างเต็มตัว 



แต่ถึงกระนั้นแบคฮยอนก็คือแบคฮยอน  เด็กดื้อก็คือเด็กดื้อ  พอมาถึงเกาะฉลามก็งอแงจะไปเกาะผีเสื้อให้ได้   บอกว่าคราวก่อนตั้งใจไปพักก็ไปไม่ถึง  ชานยอลอธิบายให้ฟังว่าช่วงนี้เกาะจะวุ่นวายเพราะแขกมาพักกันเต็มอัตราเนื่องด้วยเป็นช่วงปิดเทอม คงไม่เหลือห้องดีๆไว้รับรองนายหญิงแน่ๆคนตัวเล็กก็ไม่สนใจ  ยืนยันว่าอย่างไรก็จะไปเพราะไม่อยากนอนที่เกาะฉลาม  นายหัวได้แต่ถอนใจ  ถ้าหากรู้ว่าจะดื้อแบบนี้จะไม่ใจดีด้วยตั้งแต่แรก  จะแอบอุ้มหนีพ่อหนีแม่มาฟัดไม่ปราณีตั้งแต่เข้าเขตตะวันตกจนถึงเกาะฉลามให้รู้แล้วรู้รอดไป



“งั้นไปเกาะนางเงือก  ผมจะให้คนงานไปตั้งกระโจมให้สักหลัง”



“ดี!



                .

                .

                .



                แบคฮยอนมองร่างสูงใหญ่ที่กระโดดลงจากเรือจนน้ำทะเลเปียกไปครึ่งขา  ไม่เข้าใจว่าจะจอดห่างอะไรนักหนา  เจ้าตัวใส่กางเกงผ้ามาคงไม่รู้สึกอะไรแต่แบคฮยอนนี่สิ  กางเกงยีนส์ผ้าหนาชนิดที่ว่าไม่เปียกน้ำก็ยังหนัก  แล้วตัวสูงขนาดชานยอลยังเปียกไปครึ่งขา แบคฮยอนไม่จมถึงเอวเลยหรืออย่างไร  ช่วงนี้เขาเริ่มจะเกลียดความตัวเล็กของตัวเองอยู่บ่อยๆ  ทั้งอ่อนแอกว่าโดนเขารังแกเอาแต่ใจแล้วยังต้องมาเปียกน้ำแบบนี้อีก  เหตุผลของนายหัวคือกลัวเรือจะชนหินโสโครกเพราะยังไม่เคลียร์รอบเกาะให้เรียบร้อย  ถือเป็นเหตุผลที่คนอย่างเขาไม่รู้จะเอาอะไรไปเถียงจริงๆ  ความรู้เรื่องพวกนี้ก็ไม่มีมาสู้  สุดท้ายก็จำใจยอมเปียกกระโดดตามลงน้ำจนได้



                “ที่นี่ดูสะอาดกว่าเกาะฉลาม”  แบคฮยอนไม่ได้พูดเพราะอยากกวนอารมณ์ของชานยอล  แต่มันเป็นแบบนั้นจริงๆตามที่เห็น  หาดทรายละเอียดไร้เศษซากกิ่งไม้เปลือกหอยให้ตำเท้า  มีโขดหิดเล็กใหญ่อยู่เป็นจุดๆ  คลื่นก็ซัดเข้ามาไม่แรงนัก  ต่างกับเกาะฉลามลิบลับ  จะมีเหมือนกันก็คงเป็นความร่มรื่นจากต้นไม้ที่ขึ้นปกคลุมไปทั่ว  พอเห็นแบบนี้แบคฮยอนก็อยากจะพับโครงการสร้างบ้านไปเสีย  หากต้องตัดต้นไม่พวกนี้ก็น่าเสียดายไม่น้อย 



                “แน่ล่ะ  ซื้อมาตั้งแพงนี่ครับ”  ชานยอลว่าพลางหันมาดึงมือก่อนจะชี้ไปที่กระโจมผ้าขนาดกลางที่ตั้งอยู่ห่างชายหาดไปนิดหน่อย  “ผมให้คนติดไฟเอาไว้แล้ว  อีกไม่นานคงมืด  คุณจะได้ไม่กลัว”



                “โอเค  ผมจะพักผ่อนแล้ว  คุณกลับไปเถอะ”



                “ไม่กลัว?”



                “กลัวอะไร  คุณน่ะน่ากลัวที่สุดแล้ว  อยู่ห่างๆคุณ ผมก็ไม่มีอะไรให้กลัวทั้งนั้นแหละ”



                “เชิญตามสบายครับ”  ชานยอลไม่เร้าหรือต่อ  ปล่อยให้คนตัวเล็กได้พักผ่อนตามที่ต้องการก่อนจะเดินกลับไปที่เรือ  แต่เขาก็ไม่ได้วางใจที่จะปล่อยให้แบคฮยอนอยู่บนเกาะคนเดียว  แม้จะกลับขึ้นเรือมาแล้วก็ใช่ว่าจะได้ไปที่ไหน  ถอดเสื้อออกไปพาดไว้บนกาบเรือเพราะเปียกจากน้ำทะเลที่กระเด็นใส่แล้วนั่งเอนตัวลงเพื่อพักผ่อนในที่ของตนเองเช่นกัน 



                ท้องฟ้าสลัวทำให้ชานยอลรู้สึกเป็นห่วงเด็กน้อยจอมอวดดีของเขาขึ้นมา  เกรงว่าพอฟ้ามืดเจ้าตัวเล็กจะเกิดกลัวขึ้นมาเสียดื้อๆ  อย่างน้อยเขาควรไปบอกให้แบคฮยอนรู้เสียหน่อยว่าเขานั้นไม่ได้อยู่ที่ไหนไกล  จากกระโจมตะโกนเรียกก็คงดังไปถึงเรือ  เจ้าตัวจะได้ใจชื้นขึ้นบ้าง  ตัดสินใจลงจากเรืออีกครั้งไปตามหาเป้าหมาย  เดินไปถึงกระโจมก็เห็นแสงไฟเริ่มสว่างสวนทางกับท้องฟ้า  เห็นกางเกงยีนส์คุ้นตาพาดอยู่กับเก้าอี้ไม้หน้ากระโจม  เดาว่าแบคฮยอนคงจะถอดมาผึ่งไว้เพราะมันเปียกไปเกือบทั้งตัว  แต่ที่น่าแปลกคือคนที่ควรเจอกลับไม่อยู่เสียนี่  แบคฮยอนไปไหนกันนะ?



                มองหาจนทั่วก็พบว่าร่างเล็กๆที่แสนนุ่มมือกำลังนั่งสบายอกสบายใจบนโขดหิน  ทอดสายตาออกไปยังทะเลที่เริ่มมืดลงเรื่อยๆ  เห็นแล้วก็พอใจที่แบคฮยอนดูจะชอบที่นี่   ท่าทางผ่อนคลายแบบนั้นถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าอีกฝ่ายจะไม่งอแงขอออกไปนอนที่อื่นเหมือนตอนอยู่บนเกาะฉลามอีก



                “แบคฮยอน”



                “คุณ  ไหนกลับไปแล้วนี่”  แบคฮยอนเบิกตากว้างที่เห็นว่านายหัวยังอยู่บนเกาะแบบนี้  มือเรียวสวยรีบดึงชายเสื้อลงมาปิดหน้าขาเอาไว้  ที่กล้าจะถอดกางเกงไปตากแบบนั้นก็เพราะมั่นใจว่าอยู่คนเดียว  แต่นี่อะไร  เผลอไม่ได้เลยสักนิด  ผ่านไปไม่ถึงชั่วโมง คนแก่จอมเจ้าเล่ห์ก็มาประชิดตัว



                “ผมนอนอยู่บนเรือ  กลัวคุณอยู่คนเดียวไม่ได้  แล้วคุณก็กลับไปที่กระโจมได้แล้ว  นี่กำลังจะมืด  ไฟส่องมาไม่ถึงเดี๋ยวคุณมองทางไม่เห็น”



                “ไม่อ่ะ  ผมจะอยู่ตรงนี้ก่อน”  แบคฮยอนไม่ได้อยากเอาแต่ใจ  แต่คนมันสวมแค่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงชั้นในเท่านั้น  จะให้พรวดพราดลุกก็คงไม่ดีแน่  อย่างน้อยก็ควรให้ชานยอลออกไปก่อน 



                “ทำไมพูดยากแบบนี้  ชอบให้ผมเป็นห่วงหรอ”  ไม่ว่าเปล่า  ร่างสูงใหญ่ตรงดิ่งเข้าไปหาคนที่นั่งขดอยู่บนโขดหินทันที  ท่าทีตระหนกของแบคฮยอนดูน่าขันและน่ามอง  นึกถึงยามได้รังแกอีกฝ่ายเลือดในกายมันก็พลุ่งพล่านไปหมด  ไม่สนเสียงร้องโวยวายจากริมฝีปากเล็กๆแต่ถือวิสาสะจับอุ้มให้ใจหายกันไป



                “นี่!  คุณ ปล่อย!  มือเรียวทั้งทุบทั้งดันอกกว้างของคนที่อุ้มตนอยู่  ยิ่งอุ้มท่าเจ้าสาวแบบนี้ชายเสื้อก็ยิ่งถลกขึ้นมาเห็นไปถึงไหนต่อไหน  ยิ่งดิ้นก็ยิ่งไปกันใหญ่  สุดท้ายก็ต้องใช้ท่าไม้ตายที่รับรองได้ว่าเก่งมาจากไหนก็ต้องพ่ายแพ้ สองแขนจัดการล็อคคอคนตัวโตเอาไว้ก่อนจะโน้มลงมาแล้วอ้าปากงับหูกางๆนั่นไปเต็มแรง      



                ได้ผลอย่างที่คิด  ชานยอลปล่อยแบคฮยอนร่วงลงพื้นทรายจนก้นจ้ำเบ้า  เสื้อที่เปียกชื้นถูดเม็ดทรายละเอียดจับจองพื้นที่บนเนื้อผ้าจนสกปรกไปหมด  ถึงอย่างนั้นคนตัวเล็กก็ยังไม่สิ้นฤทธิ์  รีบยันตัวคลานหนีคนที่ทำหน้าดุเพราะถูกเขากัดหูไปเต็มๆ  แต่ยังไปได้ไม่เท่าไรก็ถูกมือหน้าจับข้อเท้าเล็กแล้วลากกลับไปหาอย่างไม่ปราณี  ชีวิตนี้จะหนีนายหัวพ้นได้อย่างไร  ตกลงมาเป็นนายหญิงให้ก็ใช่ว่าจะปล่อยตัวให้ปู้ยี่ปู้ยำได้ง่ายๆ  อุตส่าห์ขอมาอยู่เกาะนางเงือกเผื่อจะได้ห่างกันบ้างก็ไม่วายจะถูกรังแกตามเคย 



                “ไม่ดื้อมันไม่ได้เลยหรือไงนะ”  ชานยอลคร่อมทับร่างเล็กที่นอนแผ่กับหาดทราย  แสงไฟจากกระโจมส่องให้เห็นใบหน้าเง้างอนไม่ชัดนักแต่นายหัวก็มั่นใจว่าเด็กดื้อคงเบะหน้าใส่เต็มที่  ปากเล็กๆที่เชิดขึ้นเพราะโดนขัดใจนี่ช่างน่าขยี้ให้บวมช้ำเสียเหลือเกิน



                “ไม่ต้องมาพูดเลย  ไหนคุณบอกจะกลับไปแล้วทำไมยังอยู่  คุณคิดจะทำเรื่องลามกกับผมใช่มั้ย!



                “ด้วยความสัตย์จริงตอนแรกแค่จะตามคุณให้เข้าไปนอนไม่ได้คิดจะทำอะไรทั้งนั้น  แต่ตอนนี้เปลี่ยนใจแล้ว  เด็กอะไรถอดกางเกงยั่วคนอื่น  แบบนี้ต้องตีแรงๆ”



                ริมฝีปากหนากดจูบลงบนกลีบปากเล็กๆ  ดูดดึงอย่างร้ายกาจ  บดขยี้อย่างชำนาญ  เด็กน้อยได้แต่ครางอื้ออึงในลำคอเพราะถูกปล้นจูบจนแทบไม่เหลืออากาศหายใจ  ข้อมือทั้งสองข้างถูกคนตัวโตกดเอาไว้เหนือศีรษะด้วยมือหนาเพียงข้างเดียว  อีกข้างก็จัดการบีบเค้นไปตามลำตัวนุ่มนิ่มและสะโพกอวบน่าตี 



                “เฮอะไม่ อื้อ!  ถูกปล่อยให้โกยอากาศได้ไม่เท่าไรก็โดนปล้ำจูบซ้ำๆจนเจ็บไปหมด  แบคฮยอนรู้สึกได้ว่าครั้งนี้มันรุนแรงกว่าคราวก่อนมากนัก  อาจเป็นเพราะครั้งนั้นอยู่ที่บ้านของเขาเอง  นายหัวคงจะเกรงใจพ่อแม่เขาอยู่บ้าง  แต่ตอนนี้สิ  คิดว่าคงไม่พ้นจะต้องเจ็บตัวเหมือนครั้งแรกบนเรือนั่น  ไม่น่าใจร้อนยอมตกลงมาเพราะอารมณ์โกรธชั่ววูบเลย  ยิ่งดิ้นยิ่งเหนื่อย  ยิ่งต่อต้านก็ยิ่งหมดแรง  แบคฮยอนไม่ชอบที่ตัวเองตัวเล็ก  คอยดูเถิด  เดี๋ยวจะไปอัพกล้ามให้ล่ำเป็นเดอะฮัคล์  แล้วปาร์คชานยอลจะต้องเสียใจที่รังแกเขาในวันนี้ 



                เรียวขาที่โผล่พ้นเสื้อสีขาวถูกดันจนชิดแผ่นอก  แบคฮยอนอยากจะเป็นบ้ากับท่าทางน่าอายนี่เหลือนเกิน  ต้องมานอนแหกแข้งแหกขาเปิดช่องทางให้ผู้ใหญ่ใจร้ายเข้ามารังแกสะโพกอวบอิ่มที่ยังช้ำไม่หายจากคราวก่อน   ได้แต่ปรือตามองดูคนตัวโตที่กำลังก้มลงไปหาส่วนล่างของตนเองแล้วก็ยิ่งพาให้หน้าเห่อร้อน  สะดุ้งเล็กๆตอนที่รู้สึกว่าชั้นในชื้นๆสีขาวของตนถูกแหวกออกไปข้างๆด้วยฝีมือนายหัวฉลามจอมโรคจิต  ไม่รู้ว่าจะถูกทำบ้าทำบออะไรอีก  อยู่ด้วยกันไปนานๆแบคฮยอนคงได้กลายเป็นพวกโรคจิตตามแน่ๆ



                “หื้ออออออ”   ความเปียกแฉะแตะที่ช่องทางไวสัมผัสจนเผลอกระตุกกาย เรียกเสียงหัวเราะในลำคอของคนที่ก้มหน้าก้มตารังแกกันไม่อายผีป่าผีทะเล   แบคฮยอนได้แต่กำมือกับเสื้อของตนเองแน่นเพราะความรู้สึกวูบไหวที่กำลังก่อตัว  ลิ้นร้อนไล้เลียผ่านช่องทางไปมาไม่ยอมหยุด  มือหนาเปลี่ยนใจถอดชั้นในที่แหวกไปข้างๆออกมาคาเอาไว้ที่หน้าขาเพื่อให้สะดวกแก่การเฟ้นฟัดสะโพกนิ่มที่อวบอิ่มล้นมือ  บีบเค้นคลึงหนักเพราะหมั่นเขี้ยวจนอดไม่ไหว  จับแหวกออกจนช่องทางเผยอเล็กๆเรียกร้องให้ชำเราเข้าใส่จนเสียงแหบหวานครางแผ่วแต่ดังก้องไปทั่วทั้งเกาะ



                รัวลิ้นเข้าใส่จนสะโพกอวบส่ายร่อนตามอารมณ์ที่กลบความเขินอายไปจนหมด  แสงไฟสาดส่องเพียงเล็กน้อยแต่เห็นใบหน้าน่ารักได้อย่างชัดเจนว่าบัดนี้มันน่าขย้ำแค่ไหน  หยาดน้ำใสไหลปริ่มขอบตานั่นไม่อาจรู้เลยว่าร้องไห้เพราะอายหรือร้องไห้เพราะเสียว  เสียงครางฮือดังเป็นระยะน่าฟัง  ชานยอลละลิ้นออกจากช่องทางแคบแล้วจับเรียวขาขาวที่ไม่อาจอ้าออกจากกันได้เพราะชั้นในที่ยังรั้งต้นขานั้นขึ้นพาดบ่าซ้ายเอาไว้  นิ้วหนาลูบวนร่องรักที่เปียกชื้นจากน้ำลายแล้วค่อยๆดันเข้าไปช้าๆ



                “อ๊า…. ไม่  ไม่  อื้อออ  ทราย  มัน อ๊ะ อื้อ”  ใบหน้าจิ้มลิ้มสะบัดรัวเพราะความรู้สึกบางอย่างที่แปลกปลอมไปจากนิ้วของชานยอล  เม็ดทรายเล็กๆบนหาดกำลังล่วงล้ำเข้ามาโดยไม่ได้รับอนุญาต  มันสากจนรู้สึกได้  แต่คนตัวสูงไม่ได้สนใจสักนิด  ยังคงเอาแต่กระทุ้งนิ้วเข้าใส่ไม่ปราณีกัน  แบคฮยอนสะอื้นเบาๆ  ทั้งทรายที่ครูดไปตามผนังด้านในและน้ำทะเลที่ยังเกาะซึมอยู่ก่อนหน้ามันทรมานยิ่งกว่าครั้งไหนๆ    

               

“อย่าร้องไห้ คนดี”  ชานยอลถอนนิ้วออกมา  ดูเหมือนแบคฮยอนจะงอแงเสียแล้ว  เขายังไม่อยากหยุดตอนนี้เมื่อมุกแห่งเกาะตะวันออกยังไม่ได้เริ่มทำหน้าที่ของมัน  เขายังไม่ได้ยินเสียงหวีดร้องของแบคฮยอน  เขายังอยากรังแกเด็กน้อยให้ถึงใจ  ชำเราเข้าใส่จนหมดแรง

               

“ฮึก…. แสบ  มัน  อ๊า!



แบคฮยอนร้องลั่นเมื่อความใหญ่โตดุนดันเข้ามาไม่บอกล่วงหน้า  ความเจ็บแสบจากเม็ดทรายและน้ำทะเลแทบจะฆ่าแบคฮยอนให้ตายทั้งเป็นได้  บัดนี้อีกสิ่งที่ไม่ต่างกันคงจะเป็นแกนกายแสนร้ายกาจของนายหัวฉลามที่พามุกเจ็ดเม็ดเข้ามาครูดแทรกรังแกผนังอุ่นแคบแข่งกัน  ท่อนแขนแข็งแรงกอดเรียวขาสองข้างที่พาดบนบ่าไว้แน่น  กระแทกเข้าใส่รัวเร็วและรุนแรง  ยิ่งได้ยินเสียงหวีดร้องลั่นเกาะก็ยิ่งชอบใจ 



ชานยอลชอบเสียงของแบคฮยอนที่สุด



ชานยอลชอบใบหน้าจิ้มลิ้มของแบคฮยอนที่สุด



ชานยอลชอบผิวกายนุ่มนิ่มของแบคฮยอนที่สุด



ชานยอลชอบสะโพกอวบแน่นเนื้อของแบคฮยอนที่สุด….  ชอบที่มันถูกเขากระแทกกระทั้นเข้าใส่  ชอบที่มันเผลอร่อนรับแกนกายของเขาอย่างลืมตัว



ชอบนายหญิงของนายหัวฉลามที่สุด



“อ๊า!!!  แบคฮยอนกระตุกเกร็งก่อนจะปลดปล่อยออกมาเมื่อแตะขอบอารมณ์  อีกแล้ว  อีกครั้งที่เขาเสร็จโยไม่ต้องแตะต้องส่วนอ่อนไหว  คนตัวเล็กเริ่มอยากจะร้องไห้จริงๆก็ครั้งนี้  ช่วงเวลานี้อับอายมากกว่าช่วงเวลาไหนๆ  ช่วงเวลาที่ถูกกระแทกจนเสร็จ  แบคฮยอนเห็นใบหน้าแห่งชัยชนะของชานยอลส่งมาให้  ร้ายกาจที่สุด    



“อืม  แบคฮยอน  คุณเป็นเด็กดี” 



“ไม่  หยุดพูด  อื้อออออ”  ความวูบโหว่งเกิดขึ้นทันทีเมื่อแกนกายปีศาจนั่นถอนออกไปอย่างรวดเร็ว  ลมทะเลพัดโกรกเข้าไปเต็มที่  ถึงไม่เห็นแต่แบคฮยอนก็รู้ว่ามันคงอ้ากว้างจนหุบไม่ลง  ร่างกายลอยหวือขึ้นด้วยท่อนแทนแน่นมัดกล้ามก่อนที่ร่างสูงใหญ่กำยำจะพาเดินเข้าไปในกระโจม 



วางเด็กน้อยที่สั่นระริกให้คลานเข่ากับพื้น  ชานยอลไม่คิดจะถอดชั้นในตัวเล็กออกไปเพราะยิ่งเรียวขาอ้าออกไม่ได้ก็ยิ่งสร้างอารมณ์  มันยิ่งเบียดชิดแน่นรัดตอดท่อนกายให้ถึงใจถึงอารมณ์ 



“อ๊ะ  อ๊า อื้ออออ  เบา  อ๊า”  เสียงหวานหวีดลั่นอีกครั้งเมื่อชานยอลแทรกกายร้อนเข้ามาอีกครั้ง   และมันทั้งแรงและเร็วยิ่งกว่าเดิม  ร่างกายถลาไปด้านหน้าตามแรงกระแทก  โยกสั่นจนน่าสงสาร  แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเมื่อถึงจุดที่อารมณ์ดิบเถื่อนเข้าครอบงำแบคฮยอนคิดว่ามันเสียวซ่านทรมานและสะใจ  ความขรุขระจากเม็ดมุกเสียดสีตามผนังอุ่นภายในสร้างอารมณ์เหมือนยามถูกแมลงกัดจนคันคะเยอแล้วก็มีมือที่เล็บยาวแหลมมาเกาแรงๆเพื่อดับอาการ  มันสุดยอดอย่างไม่อาจจะยอมรับ  แม้ริมฝีปากจะปฏิเสธแต่ร่างกายกลับส่ายรับร่อนสะโพกสวนเข้าใส่อย่างหมดยางอาย



“อืมมมม  อีกนิดแบคฮยอน  อ่า  แกนกายกระตุกแรงแล้วส่งน้ำขุ่นพุ่งเข้าใสช่องทางที่ถูกชำเราอย่างน่าสงสาร  นายหัวฉลามโน้มตัวลงไปสวมกอดแผ่นหลังบอบบางแล้วดันให้นอนลงเคียงข้างกันโดยไม่ถอนแกนกายออกไป  จูบซับขมับชื้นเหงื่อ  ผิวแก้มใส  และจับมือเรียวสวยขึ้นมาจุมพิตปลอบประโลมให้กายเล็กหยุดสั่นเทาในเวลานี้  ลูบศีรษะแผ่วเบาเพื่อกล่อมให้คนที่เหนื่อยหอบเข้าสู่นิทรา



ชานยอลห่มผ้าให้แบคฮยอนที่หลับสนิทไปแล้ว  ถอดเอาเสื้อตัวบางกับชั้นในออกไปจนเหลือเพียงร่างกายเปล่าเปลือยขาวผ่องยามต้องแสงสีนวล  เอาชุดทั้งหมดของคนตัวเล็กไปผึ่งเอาไว้ด้วยกันหวังว่าเด็กน้อยของเขาจะได้ใส่มันอีกครั้งในรุ่งเช้าก่อนจะกลับไปที่เกาะฉลาม จูบลาแผ่วเบาบนริมฝีปากเล็กๆก่อนที่สองขาก้าวกลับไปที่เรือ  ทิ้งตัวลงนั่งแล้วเอนกายอย่างที่ชอบทำ  เมื่อสัญญาเอาไว้ว่าจะไม่นอนในกระโจมด้วยกันตั้งแต่แรก  แน่นอนว่าคนอย่างเขาย่อมรักษาคำพูด  ดังนั้นนายหัวฉลามจะนอนเฝ้านายหญิงอยู่บนเรือตลอดทั้งคืน



The End